
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทการบินไทย
ได้ทำหนังสือถึง นางแจ่มศรี สุโชติรัตน์
เรื่อง การจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568
อ้างถึง หนังสือของนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ฉบับลงวันที่ 11 ธันวาคม 2568
สิ่งที่ส่งมาด้วย หนังสือบริษัท การบินไทย จำกัด (หมาชน) ที่ กบ 01/816 ลงวันที่ 10 ตุลากคม 2568
ตามที่ท่านได้มีหนังสือขอให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระงับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เวลา 13.00 น. โดยอ้างว่าการมีมติให้จัด การประชุมดังกล่าวเป็นการขัดต่อข้อบังคับของบริษัทและพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ) ดังความที่ท่านทราบดีอยู่แล้ว ตามหนังสือที่อ้างถึงนั้น
บริษัทฯ ขอเรียนว่า การที่คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้เรียกและกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เวลา 13.00 น. นั้นเป็นไปตามข้อบังคับของเป็นไปตามข้อบังคับบริษัทฯ และพ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัดฯ ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการแล้ว โดยในปี 2568 บริษัทยังไม่เคยมีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมาก่อน ทั้งนี้การประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เป็นการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่คณะผู้บริหารแผนดำเนินการตามที่แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทได้กำหนดไว้ ซึ่งไม่ใช่และไม่อาจถือได้ว่าเป็นการจัดประชุมสามัญประจำประจำปีตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัดฯ และข้อบังคับของบริษัทแต่อย่างใด
ส่วนการพิจารณารับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทฯ อนุมัติงบการเงินประจำปี พิจารณาจัดสรรเงินกำไร (หากมี) และอนุมัติการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีรวมถึงกำหนดค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ ที่กระทำโดยผู้ทำแผนและบริหารแผนในช่วงระยะระยะเวลาที่บริษัทฯ อยู่ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ (กล่าวคือในปี 2564 ถึงปี 2567 และปี 2568 ย่อมถือได้ว่าผู้ทำแผนและผู้บริหารแผนของบริษัท” (แล้วแต่ช่วงเวลา) ได้ใช้อำนาจภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 90/25 และมาตรา 90/59 แทนผู้ถือหุ้นในการพิจารณากิจการที่พึงกระทำในการประชุมสามัญประจำปีตามที่ พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัดฯ ประกอบข้อบังคับบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ โดยการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด ดังจะเห็นได้จากการที่ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีกรรมการออกตามวาระเลยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ไม่มีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นนั่นเอง
ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ ออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการแล้วและยังไม่ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 อันเป็นผลให้ยังไม่ได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเป็นผู้มีสิทธิตัดสินใจในการเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบวาระ ซึ่งเป็นเรื่องที่พึงกระทำในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทตามข้อบังคับของบริษัท ข้อ 39 และข้อ 17 ประกอบพ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัดฯ มาตรา 71 คณะกรรมการบริษัทฯ จึงเห็นว่าควรปฏิบัติตามกฏหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ ให้ครบถ้วนเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับฯ ของบริษัทฯ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดชี้แจงในประเด็นดังกล่าวปรากฏตามสิ่งที่มาด้วย
อนึ่ง หากผู้ถือหุ้นหรือบุคคลใดกระทำอันใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทฯ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิตามกฎหมายอย่างถึงสิ้นสุดต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ






