สิงห์ เอสเตท เตรียมเดินหน้าระดมทุนผ่านหุ้นกู้ชุดใหม่

Date:

หลังจากประสบความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งก่อน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” เตรียมพร้อมที่จะเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต่อประชาชนเป็นการทั่วไป โดยปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลตราสารหนี้ (filing) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยหุ้นกู้จะมีอายุ 1 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย [4.20]% ต่อปี สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวจะชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยคาดว่าจะเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไประหว่างวันที่ 19 – 21 มกราคม 2569 ทั้งนี้บริษัทฯ ได้แต่งตั้งสถาบันการเงิน 3 แห่ง เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ที่ระดับ “BBB-” ซึ่งเป็นกลุ่ม “ระดับลงทุน” (Investment Grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ “BBB” แนวโน้ม “คงที่” โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่าอันดับความน่าเชื่อถือยังสะท้อนคุณภาพที่ดีของพอร์ตโรงแรม แบรนด์ที่อยู่อาศัยที่ได้รับการยอมรับ และรายได้ประจำจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ขณะที่ข้อจำกัดยังมาจากภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง ความเป็นวัฏจักรของธุรกิจโรงแรม และประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่มาก สำหรับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร บริษัทถูกจัดอันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรหนึ่งระดับ เนื่องจากหุ้นกู้ไม่มีประกันมีสถานะด้อยกว่าหนี้ที่มีสิทธิเรียกร้องก่อน โดย ณ กันยายน 2568 อัตราส่วนหนี้ที่มีสิทธิเรียกร้องต่อหนี้รวมอยู่ที่ 80% สูงกว่าเกณฑ์ 50% ตามหลักเกณฑ์ของทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ แนวโน้ม “คงที่” สะท้อนความคาดหวังว่าบริษัทจะรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจหลักไว้ได้ และผลการดำเนินงานรวมถึงตัวชี้วัดด้านเครดิตจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าหุ้นกู้ที่จะเสนอขายในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนที่เชื่อมั่นในแบรนด์ “สิงห์ เอสเตท” ถึงแม้ในสภาวะที่ตลาดหุ้นกู้ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กำลังเผชิญความท้าทายด้านความเชื่อมั่นก็ตาม แต่ด้วยภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ยังคงเติบโตตามแผน โดยมีรายได้จากธุรกิจหลักรวม 10,480 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 135 ล้านบาท เติบโตกว่า 5 เท่าจากปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ประจำในธุรกิจโรงแรมและอาคารสำนักงานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งบริษัทยังสามารถยกระดับอัตรากำไร (EBITDA Margin) จาก 23% เป็น 25% สะท้อนประสิทธิภาพด้านการบริหารต้นทุนและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่รัดกุม

รายได้ประจำที่มั่นคงและการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ ตอกย้ำจุดแข็งสำคัญของบริษัท คือการมีโครงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่งจากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า และธุรกิจโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งช่วยเสริมเสถียรภาพทางการเงินและความยั่งยืนของการดำเนินงาน พร้อมรองรับความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักของการเติบโต โดยรายได้ของธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาคเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะโรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเองในประเทศไทย ถึงแม้อยู่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ยังสามารถเติบโตได้ถึง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันจากปีก่อน และสามารถยกระดับ ADR ได้สูงขึ้นถึง 33% สะท้อนผลลัพธ์ของกลยุทธ์ยกระดับคุณภาพสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้ายังคงแสดงสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน โดยอาคารหลักทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สิงห์ คอมเพล็กซ์, ซันทาวเวอร์ส และเอส เมโทร สามารถรักษาอัตราการเช่าเฉลี่ยโดยรวมไว้ที่ระดับ 80% ในไตรมาส 3 พร้อมทั้งปิดการขายพื้นที่เช่าใหม่แก่ผู้เช่าหลักได้รวมกว่า 4,000 ตารางเมตร ซึ่งจะทยอยเข้าใช้พื้นที่ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ถึงต้นปี 2569 นอกจากนี้ยังคาดว่าอาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส ระดับแฟล็กชิปของ สิงห์ เอสเตท จะกลับมาแตะระดับอัตราการเช่าที่ 90% อีกครั้ง ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้เช่าต่อคุณภาพโครงการและศักยภาพทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตในเมือง

ในส่วนของธุรกิจที่พักอาศัย โครงการ สริน พรานนก–กาญจนา ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดี และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียม ดิ เอส สุขุมวิท 36 ซึ่งมีแผนปิดโครงการในปี 2568 คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย โดยสร้างรายได้กว่า 350 ล้านบาท สำหรับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม บริษัทได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 75 ไร่ ให้ Dali Foods Group แล้วเสร็จ ช่วยเสริมรายได้อย่างต่อเนื่องและสนับสนุนความแข็งแกร่งของพอร์ตกลุ่มอุตสาหกรรม

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 บริษัทคาดว่าผลประกอบการยังคงเติบโตตามแผน โดยได้รับแรงหนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยและมัลดีฟส์ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการบริหารต้นทุนทางการเงินและแสวงหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันและสร้างความสามารถในการทำกำไรระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับคะแนนประเมินการกำกับดูแลกิจการระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินงานอย่างโปร่งใสตามหลักบรรษัทภิบาล และการคำนึงถึง ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนสิงห์ เอสเตท สู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

ทั้งนี้ หุ้นกู้ สิงห์ เอสเตท คาดว่าจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนในระหว่างวันที่ 19 – 21 มกราคม 2569 โดยผู้ที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากหนังสือชี้ชวนการเสนอขายได้ที่ www.sec.or.th หรือสอบถามผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 3 แห่ง ดังต่อไปนี้

ธนาคารกรุงไทย โทร. 02-111-1111 โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Money Connect by Krungthai บนแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT

ธนาคารกสิกรไทย โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา โทร. 02-888-8888 กด 819

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย โทร. 02-626-7777 โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อออนไลน์ผ่าน Mobile Application – CIMB THAI

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากร่างหนังสือชี้ชวน ได้ที่ www.sec.or.th

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

เกี่ยวกับ สิงห์ เอสเตท (SET:S)

บริษัทผู้พัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนผ่านพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมธุรกิจที่อยู่อาศัย ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอาคารเชิงพาณิชย์ รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน สร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ส่งมอบประสบการณ์ที่ยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม ด้วยวิสัยทัศน์ มุ่งส่งมอบคุณค่าเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกการลงทุนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://investor.singhaestate.co.th/th/home

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

KBank ชูภาพอนาคต Digital Money บนเวทีนานาชาติ

KBank ชูภาพอนาคต Digital Money บนเวทีนานาชาติ ย้ำบทบาทการเงินยุคใหม่ต้องโปร่งใส ปลอดภัย และเชื่อมต่อได้ทุกระบบ

กสิกรไทย ร่วมประชุม COP30 เปิดตัว Carbon Credit Tokenization

กสิกรไทยร่วมประชุม COP30 ตอกย้ำบทบาทผู้นำภูมิภาคด้านการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม เผยความสำเร็จ Thai CBN พร้อมเปิดตัว Carbon Credit Tokenization

KBankเปิดตัว Seamless Travel Payments on Chain 

KBank ร่วมกับ Orbix Technology และ StraitsX เปิดตัว Seamless Travel Payments on Chain ภายใต้โครงการ BLOOM ของธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS)

บัตรเครดิต KBank PLUSTINUM พลัสความคุ้ม

บัตรเครดิต KBank PLUSTINUM พลัสความคุ้ม กิน-เที่ยว-ช้อป ในงาน THE POWER OF PLUS