แนะ SME ไทย เร่งศักยภาพเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Date:

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC วิเคราะห์ว่า ผู้ประกอบการ SME เชื่อมโยงกับกลไกการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในหลากหลายมิติ ทั้งบทบาทในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ชุมชน การขับเคลื่อนตลาดแรงงานและภาคส่งออก ดังนั้น SME จึงถือเป็นฟันเฟืองสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนประเทศ รวมทั้งยังมีบทบาทอย่างมากในการกระจายรายได้สู่ภาคประชาชน  อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่การระบาดของโควิด ผู้ประกอบการ SME มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้า เพราะเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากกำลังซื้อทั้งในและต่างประเทศที่เปราะบาง รวมถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ด้วยเหตุนี้ SCB EIC ได้จัดทำแบบสำรวจเชิงลึกซึ่งสะท้อนถึงความสามารถทางการแข่งขันและการเตรียมความพร้อมของ SME เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากรอบด้าน โดยได้แบ่งผลวิเคราะห์ออกเป็นประเด็นสำคัญ 4 ด้าน ดังนี้

1 มุมมองความเชื่อมั่นของธุรกิจ SME อยู่ในระดับต่ำ เพราะความกังวลต่อกำลังซื้อในประเทศที่เปราะบาง กอปรกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ เรายังเริ่มเห็นสัญญาณความกังวลใจต่อปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สูญเสียความสามารถทางการแข่งขันให้กับสินค้านำเข้า ทั้งนี้การเรียกคืนความเชื่อมั่นให้แก่เหล่าธุรกิจ SME ควรเริ่มจากการเพิ่มบทบาทของภาครัฐและภาคการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายส่งเสริมการใช้จ่ายและท่องเที่ยว เร่ง/เพิ่มการลงทุนภาครัฐ ลดความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง  ขณะที่ในระยะยาว ควรมีมาตรการสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับการส่งเสริมการส่งออกเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดใหม่ ๆ

2 การดำเนินธุรกิจของ SME ไทย กำลังเผชิญความท้าทายจากต้นทุนการผลิต/การดำเนินงานสูงและผันผวน กอปรกับปัญหากลยุทธ์การตลาดและกระบวนการผลิตล้าสมัย อีกทั้ง ยังขาดความสามารถในการรักษาฐานลูกค้า เพราะเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงจากคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการในแต่ละขนาดวิสาหกิจมีการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ เหล่านี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยธุรกิจขนาดย่อม (Micro) จะเน้นมาตรการลดค่าใช้จ่ายเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลางส่วนใหญ่จะหันมายกระดับธุรกิจผ่านการพัฒนาสินค้า กระบวนการผลิต และการตลาดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

3 SME ไทยเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการยกระดับศักยภาพธุรกิจในระยะยาว โดยจะเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพสูง โดยแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาด้านต้นทุน ความล้าสมัยของกระบวนการทำงาน และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจากรอบด้าน ซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมที่มีความตื่นตัวมากที่สุด คือ กลุ่มผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ทั้งนี้แหล่งเงินทุนหลักสำหรับธุรกิจ SME ยังคงพึ่งพาสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นหลัก จะมีเพียงวิสาหกิจขนาดย่อม (Micro) ที่จำเป็นต้องอาศัยแหล่งเงินทุนจากกำไรสะสมของธุรกิจและทรัพย์สินของผู้ประกอบการ เนื่องจากส่วนใหญ่เผชิญปัญหาความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ เพราะขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันและการจัดทำบัญชียังไม่เป็นระบบ

4 ธุรกิจ SME มีมุมมองเชิงบวกต่อกระแส ESG และส่วนใหญ่ได้กำหนดแผนการดำเนินงานภายใต้เป้าหมายความยั่งยืนแล้ว ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างในอุตฯ ปั๊มน้ำมัน จำหน่ายเคมีภัณฑ์ รับเหมาและขายวัสดุก่อสร้าง นับว่าตื่นตัวกับกระแสดังกล่าวมากที่สุด โดยการปรับตัวจะเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ทั้งนี้การปรับตัวของ SME ให้สอดรับกับกระแส ESG จำเป็นต้องอาศัยโครงการจัดอบรมให้ความรู้และโครงการมีที่ปรึกษาที่กระจายตัวอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ เนื่องจากผู้ประกอบการขนาดย่อมและธุรกิจในจังหวัดเมืองรองยังเข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือเหล่านี้ได้ค่อนข้างจำกัด จนมีส่วนทำให้การปรับตัวทำได้ค่อนข้างยากและมีต้นทุนสูง

แม้ว่า SME ไทยจะกำลังเผชิญกับบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในประเทศที่ฟื้นตัวช้าจากกำลังซื้อที่เปราะบาง แต่ปัจจัยทางเศรษฐกิจเหล่านี้คาดว่าจะทยอยคลี่คลาย สวนทางกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรง อาทิ การถูกตีตลาดจากสินค้านำเข้า กระบวนการผลิต/การดำเนินงานล้าสมัย ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะฉุดรั้งการเติบโตในระยะยาว หาก SME ไม่สามารถปรับตัวได้อย่างเท่าทัน โดยกระบวนการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของ SME ต่อจากนี้ ควรมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอ การพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์และมีคุณภาพสูง รวมถึงการวางแผนธุรกิจให้สอดรับกับเป้าหมายความยั่งยืน ESG ซึ่งจะขยายโอกาสในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานโลกที่กำลังให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวมากขึ้น

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

อดีตนายกฯ เศรษฐา เชื่อมั่นศักยภาพภูเก็ต

อดีตนายกฯ เศรษฐา เชื่อมั่นศักยภาพภูเก็ต ดึงดูดให้บริษัทใหญ่ๆ มาเปิดสำนักงานใหญ่ได้ ไม่จำเป็นต้องไปอยู่แค่กรุงเทพฯ

ค่าเงินบาท ตลาดหุ้นไทย ลุ้นเจรจาภาษีสหรัฐฯ

จับตาค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย นักลงทุนรอติดตามประเด็นนโยบายภาษีสหรัฐฯ

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ ‘ยุบสภา’

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ ‘ยุบสภา’ ยังไม่ถึงทางตัน แค่มีสะดุดติดขัดบ้าง ลุ้นคำวินิจฉัยศาล ปมคลิปเสียงนายกฯ เป็นบวก

เปิดตัว Alipay+ Voyager ผู้ช่วยท่องเที่ยวอัจฉริยะครบวงจร

แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัว Alipay+ Voyager ผู้ช่วยท่องเที่ยวอัจฉริยะครบวงจรสำหรับผู้ใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลและซูเปอร์แอป