นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานกรรมการบริหารของบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจโดยสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียอย่างเหมาะสม และสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยโครงการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงเป้าหมาย ESG และเงินฝากสีเขียว (ESG & Green Deposit Linked FX Hedging Program) ครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของบริษัทเพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนในทุกมิติ โดยบริษัทมุ่งเน้นนโยบายที่ตอบโจทย์ธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทั้งนโยบายการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งบริษัทได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคารร้านค้าทุกสาขา รวมถึงการใช้ระบบงานภายใน Modern Trade Store ที่คำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ครั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายในด้านการ สรรหาและสนับสนุน การจัดจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ สินค้า กลุ่มประหยัดพลังงาน กลุ่มส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มสินค้าเพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการ กลุ่มสินค้าเพื่อตอบสนองวิถีชีวิตใหม่ เป็นตัวชี้วัดสำหรับโครงการนี้ ซึ่งหากทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ บริษัทก็จะได้รับการสนับสนุนผ่านบัญชีเงินฝากสีเขียวของธนาคาร
“บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ของบริษัท และยังสอดคล้องกับเป้าหมายในการมุ่งสู่การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นอีกก้าวที่ช่วยเร่งการพัฒนาด้าน ESG ของเรา แสดงให้เห็นถึงผลเชิงบวกที่เกิดขึ้นเมื่อสถาบันการเงินและธุรกิจร่วมมือกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน”
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการเงิน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมสร้างคุณค่า ตอบโจทย์ลูกค้า สู่ความยั่งยืน” สนับสนุนการเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ สามารถปรับตัวรับกับเมกะเทรนด์ของโลก ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ล่าสุด ธนาคารได้ร่วมมือกับบริษัทสยามโกลบอลเฮ้าส์ ในโครงการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงกับเป้าหมาย ESG และเงินฝากสีเขียว (ESG & Green Deposit Linked FX Hedging Program) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยในโครงการนี้ ธนาคารได้นำโซลูชั่นการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนมาเชื่อมโยงกับเป้าหมายการดำเนินงานด้าน ESG โดยหากบริษัทดำเนินการตามเป้าหมายได้สำเร็จ จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมผ่านบัญชีเงินฝากสีเขียวของธนาคารโดยธนาคารกรุงไทยได้มีการจัดทำผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวตามมาตรฐานสากล ภายใต้หลักเกณฑ์ Green Financing Framework ที่ได้รับการรับรองจากผู้ประเมินภายนอก ISS Corporate Solutions (ISS-ESG) ซึ่งธนาคารจะนำเงินฝากสีเขียวมาสนับสนุนต่อยอดในการปล่อยสินเชื่อสีเขียวเพื่อโครงการสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการพลังงานทดแทน และ โครงการอาคารสีเขียว ต่อไป
ความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคาร และสยามโกลบอลเฮ้าส์ ในการสร้างผลเชิงบวกให้กับประเทศ ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์เป้าหมาย Net Zero Emission ในระดับองค์กร และระดับประเทศ สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDG) ในการขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน