CropLife Asia เสนอสร้างระบบอาหารที่มั่นคงและยั่งยืน 

Date:

CropLife Asia (ครอปไลฟ์ เอเชีย) และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย (TAITA) ได้ประกาศเปิดตัว Sustainable Pesticide Management Framework (SPMF) ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือเพื่อพลิกโฉมระบบอาหารที่มั่นคงและยั่งยืน โครงการนี้จะช่วยยกระดับชุมชนเกษตรกรไทย ปกป้องสิ่งแวดล้อม คุ้มครองสุขภาพประชาชน และเพิ่มศักยภาพการผลิตทางการเกษตร

กรอบความร่วมมือดังกล่าวนำเสนอแนวทางการพัฒนาการเกษตรแบบองค์รวม ด้วยการผสานแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในด้านการอารักขาพืช นวัตกรรม และการกำกับดูแลของภาครัฐ ที่สอดคล้องกับหลักการสากล โครงการนี้เริ่มต้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2564 เมื่อ CropLife International (ครอปไลฟ์ อินเตอร์เนชันแนล) ได้เริ่มโครงการนำร่องในภูมิภาคแอฟริกา และประเทศไทยเป็นประเทศสำคัญที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำเนินการในภูมิภาคเอเชีย โครงการนี้มีระยะเวลาในการดำเนินการ 5 ปีภายใต้แผนการลงทุนมูลค่า 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 500 ล้านบาท) ใน 9 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกร

คุณอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า “CropLife Asia และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย เป็นพันธมิตรสำคัญในการสร้างระบบอาหารที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศไทย กรอบความร่วมมือนี้จะสร้างเวทีการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขความท้าทายของเกษตรกร พร้อมเปิดโอกาสสู่นวัตกรรมและความยั่งยืน โครงการนี้จะช่วยยกระดับภาคการเกษตรไทยสู่ความทันสมัย และสร้างความมั่นใจในการผลิตอาหารที่ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ และราคาเข้าถึงได้ ทั้งสำหรับคนไทยและประชาคมโลก”

คุณซิโมน บาร์ก ประธาน CropLife Asia กล่าวว่า “SPMF ในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการนำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมมือกันขับเคลื่อนแนวทางใหม่ เทคโนโลยีใหม่ ความร่วมมือใหม่ และกรอบกฎระเบียบที่จะช่วยให้เกษตรกรของเรามีเครื่องมือที่จำเป็นและสมควรได้รับ เพื่อสร้างระบบอาหารระดับประเทศที่เข้มแข็ง ยืดหยุ่น และยั่งยืนมากขึ้น”

คุณพอล ลักซ์ตัน รองประธาน CropLife Asia กล่าวว่า “ความท้าทายที่เพิ่มขึ้น ทั้งผลกระทบรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยแล้งและน้ำท่วมที่สร้างความเสียหาย รวมถึงศัตรูพืชและโรคระบาดที่มากขึ้น ทำให้งานของเกษตรกรไทยยากลำบากกว่าที่เคย เกษตรกรเหล่านี้คือวีรบุรุษด้านอาหารของไทยและสมควรได้รับการสนับสนุนจากพวกเรา SPMF ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนความร่วมมือตลอดห่วงโซ่คุณค่าอาหารเพื่อช่วยให้เกษตรกรรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ และช่วยให้สามารถเพาะปลูกพืชได้มากขึ้นอย่างปลอดภัยและยั่งยืน”

สมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย (TAITA) เป็นตัวแทนของ CropLife Asia ในประเทศไทย ประกอบด้วยผู้ผลิตและผู้นำเข้าสินค้าเกษตร ที่มุ่งมั่นยกระดับภาคการเกษตรไทย คุณกล้วยไม้ นุชนิยม นายกสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย เห็นด้วยว่าความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นกุญแจสำคัญ โดยกล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ภาควิชาการ และเกษตรกร มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาภาคการเกษตรไทย TAITA ในฐานะผู้เล่นสำคัญ สามารถนำความเชี่ยวชาญ ความรู้ และนวัตกรรมมาเสริมสร้างมาตรฐานการกำกับดูแลและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้วยการผลักดันนโยบายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด และมอบเทคโนโลยีล้ำสมัยให้แก่เกษตรกร ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตและความมั่นคงทางอาหาร เราจะสามารถยกระดับสถานะของประเทศไทยในเวทีโลกและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้”

คุณวีรพล เจริญพานิช รองนายกสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย กล่าวว่า “การดำเนินงาน SPMF ในประเทศไทย จะเป็นแนวทางในการปฏิรูปนวัตกรรมการเกษตรร่วมกับแนวทางปฏิบัติที่ทันสมัยอย่างผสมผสาน ด้วยการผนึกกำลังของพันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วน และการนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างเช่นโดรนมาประยุกต์ใช้ เราจะสามารถช่วยให้เกษตรกรไทยปรับวิธีการทำเกษตรไปสู่แนวทางที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาประยุกต์ใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ รวมถึงลดการใช้น้ำทางการเกษตรซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุน แต่ยังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย กรอบความร่วมมือนี้กำลังจะแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมและความร่วมมือสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับภาคการเกษตรของไทย”

ภายใต้การขับเคลื่อนของ SPMF ในประเทศไทย เรากำลังสร้างเวทีความร่วมมือที่เด่นชัดซึ่งจะช่วยให้เราก้าวข้ามความท้าทายที่เกษตรกรเผชิญ และเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ที่ยั่งยืนและเป็นนวัตกรรม ด้วยงบประมาณรวมกว่า 50 ล้านบาทที่จะดำเนินการในประเทศไทยเป็นเวลา 5 ปี SPMF ประเทศไทยจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยสู่การผลิตอาหารที่ปลอดภัย ราคาเข้าถึงได้ และมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับคนไทยและประชาคมโลก

การเปิดตัวกรอบความร่วมมือนี้จัดขึ้นในงาน “SPMF ประเทศไทย เวทีความร่วมมือเพื่อนวัตกรรมและเกษตรยั่งยืน” ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โดยงานนี้เน้นย้ำถึงสถานะของประเทศไทยในฐานะหนึ่งใน 9ประเทศทั่วโลกที่ได้รับเลือกให้ดำเนินการ และแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยั่งยืนและการพัฒนาการเกษตรด้วยนวัตกรรมในประเทศไทย

โครงการนี้มุ่งเน้นการนำ 3 แนวทางหลักในการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืน

– ส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนผ่านมาตรการจัดการความเสี่ยงที่โปร่งใสและนวัตกรรมทางการเกษตรขั้นสูง

– เพิ่มการเข้าถึงนวัตกรรมโดยการสนับสนุนกฎระเบียบและการกำกับดูแลของภาครัฐที่เอื้อต่อเกษตรกรไทยในการเข้าถึงเครื่องมือ แนวปฏิบัติ และเทคโนโลยีในการอารักขาพืชที่ทันสมัย

– การใช้ผลิตภัณฑ์อารักขาพืชอย่างรับผิดชอบและมีประสิทธิภาพด้วยการอบรมเกษตรกรและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกษตรกรสามารถปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการ ควบคุมดูแล (stewardship) พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจว่าห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทยจะมีมาตรการบริหารจัดการตลอดกระบวนการที่เกี่ยวข้องในการใช้สารอารักขาพืชอย่างมีความรับผิดชอบ

ความร่วมมือนี้จะช่วยยกระดับเกษตรกรผ่านการสนับสนุนการเข้าถึงนวัตกรรมในการอารักพืชเพื่อให้สามารถจัดการปัญหาที่ท้าทายต่าง ๆ และมีการดำเนินการที่สอดคล้องกับมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่เป็นสากล ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดทั้งภายในประเทศและตลาดส่งออก

คุณขวัญชัย แตงทอง เกษตรกรทำนาดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2562 กล่าวว่า “ผมเป็นเกษตรกรที่ใส่ใจทุกขั้นตอนของการปลูกข้าว ใช้เทคโนโลยีอย่างโดรนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การนำวิธีการทันสมัยเหล่านี้มาใช้ช่วยให้ผมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มมูลค่าให้กับการเกษตร เพราะโครงการ SPMF ชีวิตความเป็นอยู่ของผมดีขึ้น ทำให้ผมสามารถนำแนวทางการทำเกษตรที่ยั่งยืนมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผมมีความหลงใหลในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และภูมิใจที่ได้แบ่งปันความรู้กับเพื่อนเกษตรกร เพื่อให้เราทุกคนก้าวหน้าไปด้วยกันสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น”

รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายอย่างท้าทายในการมุ่งเป้าเพิ่มรายได้ของเกษตรกรให้เป็นสามเท่าภายในสี่ปี ผ่านการเชื่อมโยงตลาดและนวัตกรรมเป็นกลไกขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ภาคการเกษตรไทยจ้างงานประมาณ 30% ของแรงงานทั้งประเทศและมีส่วนสนับสนุน GDP ของไทยประมาณ 10% เทคโนโลยีนวัตกรรม การเชื่อมโยงตลาด และเครื่องมือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นสามารถมีบทบาทสำคัญในการสร้างการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นมากขึ้น นวัตกรรมการเกษตรอัจฉริยะอย่างโดรนเริ่มมีบทบาทโดดเด่นและสร้างผลกระทบมากขึ้นสำหรับเกษตรกรไทย อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายสำคัญในด้านการเงิน ความยั่งยืน และกฎหมาย

ดร. เซียง ฮี ตัน ผู้อำนวยการบริหาร CropLife Asia กล่าวทิ้งท้ายว่า “การสร้างระบบอาหารที่มั่นคงและยั่งยืนไม่ใช่เรื่องที่ต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่เราต้องบรรลุให้ได้ทั้งสองด้าน ความร่วมมือระหว่าง TAITA และรัฐบาลไทยภายใต้กรอบ SPMF สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นร่วมกันในการขับเคลื่อนภารกิจที่สำคัญยิ่งนี้”

เกี่ยวกับ CropLife Asia

CropLife Asia เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานในระดับภูมิภาคของครอฟไลฟ์อินเตอร์เนชั่นเนล(CropLife International) ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลกด้านวิทยาศาสตร์การเกษตร โดยมุ่งมั่นให้ทุกคนเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและเพียงพอผ่านการส่งเสริมการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมทำงานกับหน่วยงานภาคีกว่า 15 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย และบริษัทชั้นนำ 6 แห่งที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ป้องกันพืช เมล็ดพันธุ์ และการวิจัยและพัฒนาสารพันธุกรรม เพื่อช่วยให้เกษตรกรให้สามารถผลิตอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยั่งยืน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.croplifeasia.org

เกี่ยวกับ สมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตร (ไททา)

ไททา (TAITA) เป็นองค์กรที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทยและเป็นองค์กรระดับชาติของครอปไลฟ์เอชีย อันเป็นสมาคมของผู้ผลิตและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อารักขาพืชนวัตกรรมทางการเกษตรและการปรับแต่งจีโนม เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในการเพิ่มปริมาณผลผลิตทางการเกษตรและสร้างมูลค่าให้กับเกษตรกรผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์อารักขาพืชอย่างเหมาะสมและปลอดภัย รวมถึงการส่งเสริมการวิจัยการฝึกอบรมและการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้เพื่อยกระดับภาคการเกษตรของประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลกในด้านคุณภาพของพืชผลทางการเกษตร ความปลอดภัยของผู้บริโภค รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทย

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

EXIM BANK ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จฯ พระเจ้าอยู่หัว

EXIM BANK ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ธนาคารกรุงเทพ จัดกิจกรรม “บัวหลวงรักษ์ป่า”

ธนาคารกรุงเทพ จัดกิจกรรม “บัวหลวงรักษ์ป่า” สร้างป่าหลากสี 1,000 ต้น ฟื้นระบบนิเวศให้สมบูรณ์ เพิ่มรายได้ชุมชนยั่งยืน

กรุงไทย กำไรสุทธิครึ่งปี 2568 จำนวน 22,836  ล้านบาท

กรุงไทย กำไรสุทธิครึ่งปี 2568 จำนวน 22,836  ล้านบาท เน้นดูแลคุณภาพสินทรัพย์ เร่งช่วยลูกค้าแก้หนี้และปรับตัวอย่างยั่งยืน 

นายกฯ อุบ “ทักษิณ” ร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมฯ

นายกฯ อุบ “ทักษิณ” ร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมฯ บอกสื่อรอฟังพรุ่งนี้