
เมื่อเร็วๆ นี้ คุณภูพิงค์ ทวีทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายความยั่งยืนองค์กร และคุณกิติยา ภักดีรัตนมิตร ผู้จัดการ-งานบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนกลุ่มไทยออยล์ รับมอบรางวัล T-VER Awards 2025 ประเภทรางวัลโครงการคาร์บอนเครดิตยอดเยี่ยม ประเภทการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงานและความร้อน ในฐานะที่บริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด มีโครงการที่มีปริมาณคาร์บอนเครดิตที่ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) สูงสุดในประเภทดังกล่าว และรางวัล LESS Friendship Awards 2025 ประเภทรางวัลองค์กรยอดเยี่ยม ระดับ Silver ในฐานะที่บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) มีบทบาทสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) อย่างต่อเนื่อง ในงาน “รวมพลังลดโลกร้อน สู่อนาคตที่ยั่งยืน” จาก อบก. โดยมี ดร. ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี ณ ห้องอัศวิน แกรนด์ บอลรูม โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น
รางวัลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มไทยออยล์ในการเป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามกลยุทธ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตในปัจจุบัน (Cut Down Existing Emission) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมถึงมีการส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมและส่งเสริมการขยายผลด้านการลดและกักเก็บก๊าซเรือนกระจกสู่พันธมิตรอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น ยังสามารถสร้างคาร์บอนเครดิตได้กว่า 1.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
เกี่ยวกับ ไทยออยล์
ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการโรงกลั่นนํ้ามันแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Refinery) และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นนํ้ามันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจปิโตรเคมี ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่ทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด และธุรกิจ New S-Curve