ตลาดหุ้นเดือนกรกฎาคม 2565 เริ่มขยับ นักลงทุนเริ่มกลับมาซื้อ

Date:

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ใน 7 เดือนแรกปี 2565 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่แข็งค่าจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ทำให้ค่าเงินในภูมิภาค ASEAN อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลบวกต่อภาคการส่งออกและท่องเที่ยวไทย โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 SET Index ปิดที่ 1,576.41 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า เป็นในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค

ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 SET Index ปิดที่ 1,576.41 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า เป็นในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 SET Index ปรับลดลง 4.9%
SET Index ใน 7 เดือนแรกปี 2565 ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร

ในเดือนกรกฎาคม 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 61,857 ล้านบาท ลดลง 27.5% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยใน 7 เดือนแรกปี 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 83,958 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อสุทธิในเดือนกรกฎาคม โดยซื้อสุทธิ 4,662 ล้านบาท ทำให้ใน 7 เดือนแรกปี 2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวม 113,730 ล้านบาท อีกทั้งผู้ลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4

ในเดือนกรกฎาคม 2565 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 บริษัท ได้แก่ บมจ. ไทยประกันชีวิต (TLI) และใน mai 2 บริษัท ได้แก่ บมจ. เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป (BLESS) และ บมจ. ชิค รีพับบลิค (CHIC)
Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 16.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.5 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.0 เท่า

อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 2.79% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.98%

ในเดือนกรกฎาคม 2565 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 465,349 สัญญา ลดลง 27.2% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures และในช่วง 7 ปีเดือนแรกของปี 2565 TFEX ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 557,397 สัญญา เพิ่มขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

Share post:

spot_img

Related articles

แฉขบวนการค้าบุหรี่เถื่อน ตบตาเจ้าหน้าที่

สมาคมการค้ายาสูบไทย แฉขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนเปิดร้านส่งพัสดุเอกชนบังหน้า รับออเดอร์ผ่านช่องทางออนไลน์กระจายทั่วประเทศตบตาเจ้าหน้าที่

EXIM BANK เสนอขาย Blue Bond สกุลบาท 

EXIM BANK เสนอขาย Blue Bond สกุลบาทครั้งแรก ระดมทุนสนับสนุนธุรกิจอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและ Blue Economy พัฒนาระบบนิเวศที่ยั่งยืนและสังคมคาร์บอนต่ำ

ยอดผลิต รถยนต์ เดือนมิถุนายน 2567 วูบ 20%

ปรับเป้าผลิตรถยนต์ลง 2 แสนคัน หลังยอด ยอดผลิตรถยนต์เดือนมิถุนายน 2567 วูบ 20%

ได้เวลาปลุกปั้น อาหารไทย ให้อิ่มนี้ มีอิทธิพล

แนะไทยควรให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา Soft power ด้านอาหาร ที่สามารถเชื่อมโยงให้เติบโตไปกับเทรนด์อาหารแห่งโลกอนาคต

Notice: ob_end_flush(): Failed to send buffer of zlib output compression (0) in /home/ozapeumy/public_html/wp-includes/functions.php on line 5427