บลจ.กรุงไทย แนะคู่หูเศรษฐกิจ อินเดีย เวียดนาม

Date:

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะยังอยู่ในภาวะที่ผันผวนไม่แน่นอน จากกสถานการณ์การเมืองโลกที่ยังตึงเครียด แต่สัญญาณเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลงบ้าง ช่วยผ่อนคลายแรงกดดันต่อธนาคารกลางแต่ละประเทศ จึงเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากเศรษฐกิจในบางประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ มีโอกาสเติบโตสูง มองว่าเศรษฐกิจของอินเดีย และเวียดนาม นับว่าเป็นที่น่าสนใจลงทุนมากในช่วงนี้

“สัญญาณเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลง ช่วยคลายแรงกดดันแก่ธนาคารกลางของอินเดีย จะเป็นแรงสนับสนุนให้ราคาสินทรัพย์ของประเทศอินเดียดีขึ้น ขณะที่อินเดียมีปัจจัยขับเคลื่อนระยะยาวที่โดดเด่น จากการบริโภคในประเทศที่ได้รับประโยชน์จากจำนวนประชากรที่อยู่ในระดับสูงถึง 1.38 พันล้านคน และสัดส่วนประชากรวัยแรงงานที่สูงถึง 65% ประกอบกับรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแปรรูปหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐ ที่จะเป็นแรงหนุนสำคัญให้เงินทุนไหลเข้าอินเดียอย่างต่อเนื่อง ส่วนความน่าสนใจของตลาดเวียดนามนั้น ปัจจุบันอยู่ในระดับราคาที่น่าลงทุน ด้วยศักยภาพการเติบโตระดับแนวหน้าของโลก อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำยิ่งเพิ่มความได้เปรียบและความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น ประกับกับการที่ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงมาลึกมากจากความกังวลระยะสั้นที่รัฐบาลเอาจริงเอาจังในการปราบปรามนักลงทุนและนักธุรกิจหลายรายที่กระทำความผิด จึงเป็นโอกาสในการลงทุนรอบใหม่” นางชวินดา กล่าว

สำหรับการลงทุนใน 2 ประเทศนี้ ทาง KTAM ได้แนะนำกองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดสะสมมูลค่า) (KT-INDIA-A) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco India Equity Fund – Class A (กองทุนหลัก) เพียงกองเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ของกองทุนรวม เพื่อเป้าหมายการเติบโตของเงินทุนในระยะยาว โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นหรือตราสารที่คล้ายคลึงกันของบริษัท อินเดีย ซึ่งกองทุนหลักจะลงทุนในหุ้นและหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นที่ออกโดยบริษัท อินเดียอย่างน้อย 70% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุน

และกองทุนเปิดเคแทม เวียดนาม อิควิตี้ (ชนิดสะสมมูลค่า) (KT-VIETNAM-A) เป็นการลงทุนแบบเชิงรุก เพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาด เน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศเวียดนาม ผ่านการลงทุนในตราสารทุน หน่วย CIS กองทุน ETF ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประเทศเวียดนามและต่างประเทศ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมีกระบวนการลงทุนแบบผสานรูปแบบการลงทุนทั้ง Top-down และ Bottom-up Approach ด้วยการคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้นักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้เลือกลงทุนเพิ่มเติมกับ กองทุนเปิดเคแทม เวียดนาม อิควิตี้ (ชนิดเพื่อการออม) (KT-VIETNAM-SSF) อีกด้วย

Share post:

spot_img

Related articles

แฉขบวนการค้าบุหรี่เถื่อน ตบตาเจ้าหน้าที่

สมาคมการค้ายาสูบไทย แฉขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนเปิดร้านส่งพัสดุเอกชนบังหน้า รับออเดอร์ผ่านช่องทางออนไลน์กระจายทั่วประเทศตบตาเจ้าหน้าที่

EXIM BANK เสนอขาย Blue Bond สกุลบาท 

EXIM BANK เสนอขาย Blue Bond สกุลบาทครั้งแรก ระดมทุนสนับสนุนธุรกิจอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและ Blue Economy พัฒนาระบบนิเวศที่ยั่งยืนและสังคมคาร์บอนต่ำ

ยอดผลิต รถยนต์ เดือนมิถุนายน 2567 วูบ 20%

ปรับเป้าผลิตรถยนต์ลง 2 แสนคัน หลังยอด ยอดผลิตรถยนต์เดือนมิถุนายน 2567 วูบ 20%

ได้เวลาปลุกปั้น อาหารไทย ให้อิ่มนี้ มีอิทธิพล

แนะไทยควรให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา Soft power ด้านอาหาร ที่สามารถเชื่อมโยงให้เติบโตไปกับเทรนด์อาหารแห่งโลกอนาคต

Notice: ob_end_flush(): Failed to send buffer of zlib output compression (0) in /home/ozapeumy/public_html/wp-includes/functions.php on line 5427