ดร.ชินดนัย ไชยยอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMARC (เอมาร์ค) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 191.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า มีปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของบริการตรวจวิเคราะห์ ซึ่งถือเป็นบริการหลักและมีอัตรากำไรสูง และประสิทธิภาพของการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย ตลอดจนต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทฯและบริษัทย่อยดีขึ้น
โดยมีรายได้จากการบริการรวม 82.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีการเติบโตในทุกกลุ่มบริการและมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากลูกค้าฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 และความสามารถในการรับงานโครงการเอกชนที่เพิ่มขึ้น
มีรายได้จากบริการตรวจวิเคราะห์เป็นหลัก (Testing) 76.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเติบโตจากกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ จากการขยายขอบข่ายและกำลังการให้บริการ รวมถึงการเติบโตของรายได้จากส่วนภูมิภาค
ส่วนกลุ่มงานสอบเทียบ (Calibration) เพิ่มขึ้น 11.4% และกลุ่มงานตรวจสอบและรับรองระบบ (Inspection & Certification) รายได้เพิ่มขึ้น 35.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากงานโครงการของรัฐที่มีการใช้งบประมาณมากขึ้น นอกจากนี้ ในปี 2567 ยังมีรายได้บริการอบรมและสัมมนา โดยบริษัทย่อย (Amarc Global Verification) 0.35 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 279.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า มีรายได้จากการบริการรวม 158.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.4% ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรกจำนวน 23.46 ล้านบาท เป็นผลจากการบุกตลาดภูมิภาค และการขยายขอบข่ายการให้บริการ
“ผลงาน Q2/67 และในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีการเติบโตที่ดี ตอบรับเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว ช่วยหนุนการบริโภคภายในประเทศกลับมาคึกคัก ประกอบกับการบุกตลาดภูมิภาค และการขยายขอบข่ายการให้บริการ โดยแผนธุรกิจปี 67 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15%” ดร.ชินดนัย กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด สำหรับผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 20 สิงหาคม 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Recode Date) วันที่ 21 สิงหาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กันยายน 2567
ดร.ชินดนัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังของปี 2567 ประเมินว่าแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา คาดว่าผลดำเนินงานจะทำสถิติสูงสุดช่วง Q3/2567 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออกภาคธุรกิจเกษตรและอาหาร รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ของภาครัฐฯ ส่งผลให้หลายธุรกิจกลับมาส่งออกเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่ขยายตัวทั้งทางการแพทย์ และภาคธุรกิจเกษตร-อาหาร