“บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา” ครึ่งปี รายได้รวม 680 ล้านบาท ทะยานทำนิวไฮ

Date:

ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2565 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯมีรายได้รวมทะยานสร้างสถิติใหม่ที่ 680 ล้านบาท หลังผลงานไตรมาส 2/2565 สดใส มีกำไรสุทธิเกือบ 32 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาส 2 ปีที่แล้ว 34% รายได้รวมทำนิวไฮกว่า 409 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) 51.4% และ 106.5% ตามลำดับ ตามการเติบโตของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก หนุนภาพรายได้รวมครึ่งแรกปี 2565 ทะยานสร้างสถิติใหม่ที่ 680 ล้านบาท

โดยปัจจัยหนุนการเติบโตของรายได้รวมไตรมาส 2/2565 มาจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับคนเติบโตขึ้น 61.2% แตะ 174.3 ล้านบาท ตามการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์รักษาโรคกว่า 212.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 107 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเติบโตราว 33% แตะ 70 ล้านบาท ที่สำคัญบริษัทฯมีการรับรู้รายได้จากกิจการร้านขายยาภายใต้แบรนด์ “Lab Pharmacy” ดำเนินการโดยบริษัท “ดรัก แคร์” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้ามาเติมพอร์ตกว่า 125 ล้านบาท รวมถึงจากโรงงานโมเดิร์น ฟาร์มา (Modern Pharma) อีกราว 62 ล้านบาท และโรงงานยา เทวา จังหวัดอยุธยา จำนวน 45 ล้านบาท

สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ราว 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการเติบโตของยอดขาย รวมถึงการปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ขาย, ต้นทุนวัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตเวชภัณฑ์รักษาโรคขยับสูงขึ้นต่อเนื่องนับจากช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) อยู่ที่ 37.4% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin : NP) อยู่ที่ระดับ 7.8% อย่างไรก็ตามคาดว่าทอัตรากำไรสุทธิ จะไม่ต่ำกว่า 10% ในไตรมาสที่สามเนื่องจาก บริษัทฯได้ปรับราคาขายทุกผลิตภัณฑ์หลักให้สอดรับต้นทุนแท้จริง นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนและกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพระดับสูงสุด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทฯได้รับชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,043 ล้านบาท จากบริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด (INNOBIC LL) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพร้อมเดินหน้าต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจสุขภาพครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ภายใต้ 7 โครงการความร่วมมือ (Partnership Projects) ประกอบด้วย การร่วมลงทุนโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ยาจากยุโรป เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของโรงงานอินเตอร์ ฟาร์มา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้สามารถผลิตยาที่มีมาตรฐานสากล พร้อมส่งออกไปจำหน่ายได้ทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดยุโรป และอเมริกา

การใช้โรงงานอินเตอร์ฟาร์มาเพื่อเป็นทางเลือกการวิจัยและพัฒนา และการผลิตเวชภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากบริษัทเวชภัณฑ์ระดับโลก, การใช้โรงงาน อินเตอร์ฟาร์มา และโรงงานโมเดิร์น ฟาร์มา เป็นฐานการผลิตเวชภัณฑ์ และอาหารเสริมสุขภาพของบริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด, ร่วมมือขยายเครือข่ายร้านขายยา LAB PHARMACY, ร่วมกันพัฒนาและขยายตลาดเครื่องดื่มสมุนไพร (พืชกระท่อม), ขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพไปต่างประเทศผ่านเครือข่ายของ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด และ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา และร่วมกันขยายช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคผ่านรูปแบบ Digital Platform ทั้ง Telepharmacy และ Telmedicine เพื่อผลักดันการเติบโตแบบก้าวกระโดดต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดแนวโน้มผลงานครึ่งหลังของปี 2565 สดใส หนุนภาพรวมทั้งปีเติบโตตามเป้าทะลุ 1,600 ล้านบาท สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง ซึ่งล่าสุดเตรียมส่งผลิตภัณฑ์จากกัญชาและใบกระท่อม เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคเร็วๆนี้ ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ล่าสุดเตรียมเปิดร้านยา “Lab Pharmacy” เพิ่มอีก 5-10 สาขา เป็น 25-30 สาขา

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.นวัตกรรมยารักษาโรค (Pharmaceutical Innovation), 2.โภชนบำบัดเพื่อการรักษาสุขภาพและชะลอวัย (Wellness & Anti-Aging Nutraceuticals), 3.เวชสำอางและนวัตกรรมความงาม (Cosmeceuticals & Aesthetic Innovation), 4.ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง(Companion Animal Healthcare), 5.ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพสำหรับปศุสัตว์ (Livestock Animal Healthcare) และ 6. ธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ “LAB PHARMACY”

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

รทสช. ค้านสุดตัว กม.นิรโทษกรรม ต้องไม่รวมคดีม.112

รทสช. ค้านถึงที่สุด ลั่น กม.นิรโทษกรรมต้องไม่รวมคดีม.112 ชี้ เป็นกฎหมายปกป้องสถาบันฯ ความมั่นคงของชาติไม่เกี่ยวแรงจูงใจการเมือง

ออร์บิกซ์ คัสโทเดียน เดินเครื่องธุรกิจรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

ออร์บิกซ์ คัสโทเดียน เดินเครื่องธุรกิจรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล ปักธงให้บริการปี 68 รองรับตลาดผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

CEO กสิกรไทย ติด 1 ใน 30 ผู้นำหญิงทรงอิทธิพล

CEO กสิกรไทย ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 30 ผู้นำหญิงทรงอิทธิพล ภูมิภาคเอเชีย จากการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างความเป็นเลิศทางธุรกิจ

KBTG พัฒนา Face Liveness Detection เติมเต็มโซลูชัน AI

KBTG พัฒนา Face Liveness Detection เติมเต็มโซลูชัน AI เพื่อธุรกิจ การันตีด้วยรางวัลนวัตกรรมการเงินยอดเยี่ยม จาก Global Finance