เร่งตั้ง กองทุนพยุงหุ้น LTF ให้ได้เดือน มี.ค. นี้

Date:

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นไทย เร่งหารือตั้งกองทุน Thai ESG กองใหม่ เพื่อมารองรับการขายหุ้น LTF ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท เพื่อช่วยไม่ให้นักลงทุนขาดทุน และตลาดหุ้นไทยตกไปมากกว่านี้

“เมื่อสิ้นปี 2567 มีคนถือ LTF ครบกำหนดขายทั้งหมด 2.4 แสนล้านบาท มีการขายไปบ้างแล้ว เหลือยอดที่ค้างอยู่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท เนื่องจากไม่อยากขายเพราะจะขาดทุน 5-10% จากที่ลงทุนไป และคลังก็ไม่อยากให้ผู้ถือหน่วยลงทุน LTF ที่เหลืออยู่ เพราะจะซ้ำเติมให้ตลาดหุ้นไทยตกลงมากกว่านี้ไปอีก” นายลวรณ กล่าว

นายลวรณ กล่าวว่า กองทุน Thai ESG ใหม่ทำให้เสร็จภายในเดือน มี.ค. นี้ เพราะเป็นมาตรการที่ต้องดำเนินการให้ไว และกองทุนใหม่นี้ จะรับการซื้อ LTF ที่ครบกำหนดเงื่อนไขเดิมเท่านั้น ส่วน กองทุน Thai ESG เดิม นักลงทุนก็ยังใช้สิทธิได้เหมือนเดิม คือลงทุนได้ไม่เกิน 3 แสนบาท ที่นำไปหักลดหย่อนภาษีได้

ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กองทุน Thai ESG ได้รับความสนใจไม่แพ้กองทุน LTF เดิม จากสถิติที่คลังเห็นที่ผ่านมานักลงทุนซื้อกองทุน LTF ประมาณ 2.5-3 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่วนกองทุน กองทุน Thai ESG สิ้นปี 2567 มีคนลงทุน 2.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนดี 

ดังนั้นการตั้งกองทุน กองทุน Thai ESG ใหม่ เพื่อมารองรับการขายผู้ถือหน่วยลงทุน LTF ครบเงื่อนไข จะช่วยให้นักลงทุนไม่ขาดทุนได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่ม และช่วยตลาดหุ้นไทยไม่กระทบจากการมีนักลงทุนเทขายหุ้นหนีขาดทุน

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ทิพยประกันภัย มอบเสื้อกันฝนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทิพยประกันภัย ห่วงใยทุกชีวิตในสังคม มอบเสื้อกันฝนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบ้านหัน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อใช้ปฏิบัติงานในช่วงฤดูฝน

กรุงเทพประกันภัย เปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหารบริษัทนายหน้าประกันภัย

กรุงเทพประกันภัย เปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหารบริษัทนายหน้าประกันภัยและบริษัทประกันภัยชั้นนำจากเวียดนาม เยี่ยมชมระบบเทคโนโลยี

ก.ล.ต. กล่าวโทษ ETL และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 9 ราย 

ก.ล.ต. กล่าวโทษ ETL และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 9 ราย กรณีปกปิดข้อความจริงในแบบ filing ต่อ ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ถอนใบอนุญาตแนะนำลงทุน “นางกัญญ์ภัคญา ประเสริฐกิจกุล”

ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน กรณีขาดคุณสมบัติ ของ “นางกัญญ์ภัคญา ประเสริฐกิจกุล”