SPRC จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.15 บาทต่อหุ้น

Date:

บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC รายงานผลประกอบการช่วงครึ่งแรกของปี 2568 โดยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มโดยรวมให้กับองค์กร (Enterprise value capture) เป็นจำนวน 27.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 SPRC     มีอัตรากำไรขั้นต้นของกิจการอยู่ที่ 6.33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจาก 5.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ซึ่งปัจจัยหลักมาจากส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันผลิตภัณฑ์เมื่อเทียบกับน้ำมันดิบดูไบ ผนวกกับความพยายามในการบริหารห่วงโซ่คุณค่าอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการบูรณาการธุรกิจโรงกลั่นและการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โครงการปรับปรุงผลกำไร (Bottom-Line Improvement Program – BLIP) ยังช่วยเพิ่มกำไรอีก 0.92 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาสนี้ โดยเป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ และปริมาณการค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น

แม้ว่าส่วนต่างราคาน้ำมันผลิตภัณฑ์เมื่อเทียบกับน้ำมันดิบดูไบจะปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีการรายงานผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันในตลาดที่ปรับลดลง และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้รายได้ใน 6 เดือนแรกของปี 2568 ขาดทุนสุทธิ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะเผชิญกับความผันผวนในระยะสั้น SPRC ยังคงยึดมั่นในการจ่ายเงินปันผลที่มั่นคงและต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกและสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

ในวันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เป็นจำนวนเงิน 0.15 บาทต่อหุ้น จากกำไรสะสมของบริษัทฯ โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล คือ วันที่ 22 สิงหาคม 2568 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2568

นายเฮอร์เบิร์ต แมทธิว เพนน์ ที่ 2 (แมทธิว) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC กล่าวว่า “ในการนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงและแข่งขันสูง เรายังคงให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน ความปลอดภัยและการเติบโตด้วยความรับผิดชอบผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เรายังคงเน้นย้ำการสร้างวินัยทางการเงิน การลำดับความสำคัญทางการเงิน และการลดต้นทุนในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรายังไม่หยุดยั้งในการศึกษาและสำรวจช่องทางในธุรกิจหมุนเวียนรูปแบบใหม่ (Circular Business) ให้สอดรับกับความต้องการและแนวโน้มในอนาคต พร้อมเดินหน้าหาโอกาสในการบูรณาการธุรกิจร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมโรงกลั่นและปิโตรเคมีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า”

“ก้าวต่อไป SPRC จะมุ่งเน้นการใช้ศักยภาพของโรงกลั่นอย่างเต็มที่ และขับเคลื่อนการเติบโตในธุรกิจการตลาดของเรา โดยแนวทางนี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระแสเงินสดอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมพลังงานแห่งอนาคต” นายแมทธิว เพนน์ กล่าวสรุป

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

GULF รับรู้ Core Profit ไตรมาส 2/2568 จำนวน 7,101 ล้านบาท

GULF รับรู้ Core Profit ไตรมาส 2/2568 จำนวน 7,101 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากธุรกิจพลังงาน และส่วนแบ่งกำไรบริษัทลูก 56,120 ล้านบาท

WHAUP โชว์รายได้ครึ่งปีแรก 1,898 ล้านบาท

WHAUP โชว์รายได้ครึ่งปีแรก 1,898 ล้านบาท กำไรปกติแตะ 460 ล้านบาท ลุยขยายธุรกิจต่อเนื่อง รับดีมานด์ Data Center พุ่ง

WHA Group โชว์ 6 เดือนแรกปี 68 กำไรพุ่งแตะ 3,148 ล้านบาท 

WHA Group โชว์ฟอร์ม 6 เดือนแรกปี 68 รายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 9,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%  ด้านกำไรปกติพุ่งแตะ 3,148 ล้านบาท เติบโต 24%

UAC ครึ่งปีแรกกวาดรายได้ 947.71 ล้านบาท

UAC ครึ่งปีแรกกวาดรายได้ 947.71 ล้านบาท เสถียรภาพทางการเงินแข็งแกร่ง-ลุยขยายธุรกิจพลังงานสะอาด