นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) หนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับเป้าปี 65 รายได้เติบโต 45-50% สอดคล้องแนวโน้มธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 3-4/2565 จะเป็นช่วงไฮซีซั่น เพราะเป็นช่วงฤดูการส่งออกของลูกค้าในเทศกาลสำคัญปลายปี เริ่มตั้งแต่เทศกาล Prime Day ของ Amazon ในเทศกาล 7/7 และตามมาด้วยเทศกาล 9/9, 10/10, 11/11 ของ eCommerce Platform ในประเทศจีน และเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ช่วงปลายปี จะทำให้ปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างนัยสำคัญ ขณะเดียวกันมีปัจจัยที่สนับสนุนจากธุรกิจ SME เริ่มกลับมาใช้บริการมากขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้นได้อย่างโดดเด่น
ทั้งนี้ ล่าสุด LEO ได้ประกาศร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) รุกขยายธุรกิจให้บริการเช่าคลังสินค้า (Warehouse) และ Self-storage ต่อยอดและนำพาธุรกิจคลังสินค้าและธุรกิจพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่า (Self Storage) ให้ก้าวต่อไปแข็งแกร่งและยั่งยืน
และในปีนี้เตรียมจับมือกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทข้ามชาติระดับ Regional Player เพิ่มอีก 2-3 ราย เพื่อตั้ง JV ในการพัฒนาธุรกิจ Warehouse, Cold Chain Logistics และ Self Storage รวมถึงหาโอกาสในการปิดดีล M&A ทั้งบริษัทในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นภาพได้ชัดเจนภายในไตรมาส 4 ของปีนี้” นายเกตติวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการศึกษาขยายธุรกิจ Non-Logistics อย่างจริงจัง เริ่มด้วยการรุกธุรกิจกัญชา ที่ล่าสุดได้เซ็น MOU กับ วิสาหกิจชุมชนสุขฤทัย เกษตรปลอดภัย จ.อุทัยธานี สนับสนุนโครงการเพาะพันธุ์ปลูกขายต้นกล้ากัญชา ต่อยอดสู่การผลิตช่อดอกเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ เพื่อที่จะช่วยผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/2565 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ) มีรายได้รวม 1,335.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 559.6 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 99.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.1 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 42.7 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ 6 ไตรมาส ติดต่อกัน
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรก มีรายได้รวม 2,986.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,033.5 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 189.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 172% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 69.7 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และมีกำไรเกือบเท่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2564 ที่ทำได้ 198.8 ล้านบาท
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณในความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มีต่อหุ้นของ LEO และรักษาคำมั่นสัญญาของบริษัทฯ ที่ตั้งใจจะทำให้หุ้น LEO เป็น BLUE CHIP STOCK ของธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศไทย คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2565 นี้