KTAM แนะทางเลือก PVD 4 กลุ่ม ยืดหยุ่น ตอบรับไลฟ์สไตล์ลงทุนได้ทุกรูปแบบเพิ่มความมั่นคงหลังเกษียณ
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันระดับการออมของประชากรไทยยังอยู่ในระดับต่ำและกระจุกตัวในวงจำกัด รวมถึงการออมเพื่อการเกษียณอายุผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งถือว่าเป็นอีกแหล่งเงินที่สำคัญในยามเกษียณ นักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึงควรให้ความสำคัญ ใส่ใจดูแล พร้อมปรับพอร์ตเพื่อให้เข้ากับสภาวการณ์ และควรสร้างวินัยในการออมเพื่ออนาคตที่มั่นคง
“กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะสมทบเงินจำนวนหนึ่งเข้ากองทุนทุกเดือน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันให้พนักงานในยามเกษียณอายุหรือลาออกจากงาน จึงเป็นกองทุนที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของพนักงาน และด้วยสภาวะที่ข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ หน่วยงานหรือองค์กร ควรเลือกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เหมาะสม มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย สามารถปรับเปลี่ยนนโยบายลงทุนให้สอดคล้องและตอบโจทย์ทางเลือกในการลงทุนที่เปลี่ยนไป เพื่อรักษาเงินลงทุนให้มีโอกาสงอกเงยสม่ำเสมอ นอกจากนี้ จะต้องให้ความสำคัญกับการให้ความรู้สมาชิกให้เข้าใจถึงการลงทุน เพื่อให้สมาชิกเลือกแผนการลงทุนที่ตรงกับความต้องการภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้อย่างแท้จริง” นางชวินดา กล่าว
KTAM จึงแนะนำกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไทยมั่นคง มาสเตอร์พูล ฟันด์ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว โดยกองทุนนี้มีนโยบายการลงทุนให้เลือกลงทุนถึง 16 นโยบาย ภายใต้ 4 กลุ่มนโยบายหลัก ได้แก่ กลุ่มนโยบายตราสารหนี้ กลุ่มนโยบายผสม กลุ่มนโยบายตราสารทุน และกลุ่มนโยบายทางเลือก โดยนายจ้างและพนักงานสามารถกำหนด และเลือกแผนการลงทุนได้ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งนโยบายการลงทุนทั้ง 16 นโยบายนี้ มีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย อาทิเช่น การลงทุนในทองคำ ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมตราสาร กองทุนรวมแบบผสม และกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเงินออมระยะยาว ที่สมาชิกจะได้ไว้ใช้ในตอนเกษียณอายุหรือตอนออกจากงาน ดังนั้นการจะเลือกแผนการลงทุนที่เหมาะสมนั้น ควรขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ยอมรับได้ในปัจจุบัน รวมถึงการประเมินเป้าหมายการใช้เงินหลังเกษียณว่ามีความต้องการใช้เงินต่อเดือนเท่าไร เพื่อประเมินเบื้องต้นได้ว่า ควรจะต้องออมเงินเท่าไร และควรมีผลตอบแทนเท่าไร จึงจะเพียงพอกับเป้าหมายในการลงทุน
นอกจากแผนการลงทุนที่เลือกและปรับเปลี่ยนได้แล้ว KTAM ยังมีผู้ช่วยในการลงทุน “KTAM PVD Fund Application” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ 24 ชั่วโมง ทั้งการข้อมูลสมาชิก สรุปยอดเงินในกองทุน เงินนำส่งรายเดือน รายละเอียดนโยบายการลงทุน สับเปลี่ยนแผนการลงทุน โปรแกรมคำนวณการวางแผนการเกษียณ รวมถึงสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลกองทุน รวมถึงกลยุทธ์การลงทุนทั้งรายเดือนและรายสัปดาห์ได้ตลอดเวลา
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือ http://bitly.ws/sJFR