นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TPS ) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (TPS-W1) จำนวนไม่เกิน 83,999,968 หน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า โดยมีอัตราการจัดสรรเท่ากับ 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิฯ และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ1 หน่วย ต่อหุ้นสามัญของบริษัท 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.20 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ TPS-W1 (Record Date) ในวันที่ 10 ตุลาคม 2565
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีกจำนวนไม่เกิน 41,999,984 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 167,999,936 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 335,999,872 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียน จำนวน 209,999,920 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 419,999,840 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 83,999,968 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
“บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและให้ความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ ซึ่ง TPS ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆ ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมี Backlog อยู่ในมือ 1,441 ล้านบาท จึงมั่นใจว่า จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้รายได้เติบโตที่ระดับ 50% ซึ่งเป็นการปรับเป้าหมายใหม่เพิ่มขึ้น จากเดิมที่คาดว่า จะเติบโตราว 25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาได้ และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TPS กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานที่เหลือของปีนี้ TPS เดินหน้าเข้าประมูลงานขนาดใหญ่ทั้งโครงการภาครัฐและเอกชน โดยมีการเข้าประมูลงานในส่วนของบริษัทฯ และในส่วนของบริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด เป็นบริษัทย่อย ซึ่งจะเน้นเข้าประมูลงานของภาครัฐเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้อย่างสม่ำเสมอ จากงานบริการบำรุงรักษา ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์อยู่แล้ว
ขณะที่ ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ภายใต้บริษัท เอ็กซ์-ซีเคียว จำกัด (X-Secure Co.,Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ปัจจุบันมีลูกค้าให้ความสนใจหลายราย โดยเฉพาะลูกค้าจากภาคเอกชน และคาดว่า จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป เชื่อมั่นว่า ผลงานในปีนี้ จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้