มอบนโยบายการจัดทำงบฯ 67

Date:

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารสำนักงบประมาณ ผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายฯ ว่า การใช้จ่ายภาครัฐในปีงบประมาณ 2567 ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกรอบวงเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท และงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ วงเงินประมาณ 5.05 แสนล้านบาท ดังนั้น การบริหารจัดการด้านการคลังจึงจำเป็นต้องดำเนินไปด้วยความรอบคอบ รักษาวินัยและเสถียรภาพทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด

นายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำประเด็นสำคัญในการจัดทำคำของบประมาณปี 2567 ว่าการจัดทำแผนงานหรือโครงการต่าง ๆ ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับ 13 หมุดหมายภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และประเด็นสำคัญภายใต้ (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ ที่ต้องเร่งดำเนินการควบคู่กับประเด็นการพัฒนาตาม (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายรัฐบาล

โดยกำชับทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับประเด็นตามยุทธศาสตร์การจัดสรรฯ 6 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านความมั่นคง 2) ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ประกอบด้วย การเกษตร อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต การท่องเที่ยว พื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐาน SMEs และเขตเศรษฐกิจพิเศษ 3) ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4) ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5) ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 6) ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน ในปี 2566 จากเดิมอยู่ที่ 10 ล้านคน และตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2566 ที่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนซึ่งคาดว่า GDP จะเพิ่มจากร้อยละ 3.2 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 3.5 ในปี 2566 อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตาม เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรองรับทุกสถานการณ์จากทั่วทุกภูมิภาคของโลกที่อาจส่งผลกระทบกับประเทศไทยในอนาคต

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

เวียดนามเดินหน้า รถไฟเชื่อมจีน 460 กิโลเมตร

“พาณิชย์” เผยปี 68 เวียดนามเดินหน้า รถไฟเชื่อมจีน 460 กิโลเมตร แนะผู้ประกอบการไทยศึกษา ใช้ประโยชน์ส่งออกไปจีน

สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ อายุ 2 ปี

ธอส. เปิดจำหน่าย “สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568” อายุสลาก 2 ปี ลุ้นรับเงินรางวัลใหญ่ ตลอด 24 งวด

LH Bank ผนึก LH Fund จัดสัมมนาใหญ่ 

LH Bank ผนึก LH Fund จัดสัมมนาใหญ่ เจาะลึกเศรษฐกิจการลงทุนไต้หวัน

บลจ.กสิกรไทย ขานรับ Easy E-Receipt 2.0

บลจ.กสิกรไทย แนะกลยุทธ์จัดพอร์ต Core & Satellite พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0