คลังประมาณ เศรษฐกิจไทย ปี 2567 ขยายตัว2.8%

Date:

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง   แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวที่ 1.8% (ช่วงคาดการณ์ที่ 1.6 ถึง 2.0%) ชะลอลงจากปี 2565 ที่ขยาย 2.6%

สำหรับในปี 2567 กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นที่ 2.8% (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.3 ถึง 3.3%) โดยปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการคาดว่าจะยังสามารถขยายตัวได้ และภาคการท่องเที่ยวคาดว่าในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 33.5 ล้านคน ขยายตัวที่ 19.5% และมีรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 1.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.6% 

อย่างไรก็ดี ต้องติดตามสถานการณ์หนี้ภาคครัวเรือน โดยล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 มียอดคงค้างอยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.9% ของ GDP 

ทั้งนี้ การพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพในระยะยาวนั้น ควรให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น ดังนี้ 

1 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Development) เช่น การพัฒนาการใช้พลังงานที่ยั่งยืน การลงทุนในด้านดิจิทัล และการพัฒนาด้านคมนาคมเชื่อมโยงภูมิภาคต่าง ๆ จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ และทำให้ประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางในระดับภูมิภาคได้ 

2 การพัฒนาทักษะ (Skills Development) การเตรียมแรงงานให้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับเศรษฐกิจโลกมีความสำคัญและจะส่งเสริมความสำเร็จในระยะยาวได้ดี

3 การรักษาเสถียรภาพทางการคลัง (Fiscal Stability) มุ่งมั่นในการบริหารจัดการการคลังอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงการใช้จ่ายของรัฐและระดับหนี้สาธารณะอย่างรับผิดชอบ เพื่อรักษาความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายต่าง ๆ ในอนาคตได้

นอกจากนี้ ยังควรติดตามปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด อาทิ 

1 ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่าง ๆ ที่อาจรุนแรงมากขึ้น อาจเป็นข้อจำกัดและส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป เช่น การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ สถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานให้ปรับตัวสูงขึ้น และความยืดเยื้อของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน 

2 สถานการณ์การเลือกตั้งผู้นำของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศรัสเซีย และประเทศอินเดีย เป็นต้น ที่อาจส่งผลต่อการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศของไทย 

3 ความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลักและปัญหาสถาบันการเงินในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป 

และ 4 สถานการณ์เศรษฐกิจของจีน ที่อาจส่งผลต่อการส่งออกและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวของไทย 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

รทสช. ค้านสุดตัว กม.นิรโทษกรรม ต้องไม่รวมคดีม.112

รทสช. ค้านถึงที่สุด ลั่น กม.นิรโทษกรรมต้องไม่รวมคดีม.112 ชี้ เป็นกฎหมายปกป้องสถาบันฯ ความมั่นคงของชาติไม่เกี่ยวแรงจูงใจการเมือง

ออร์บิกซ์ คัสโทเดียน เดินเครื่องธุรกิจรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

ออร์บิกซ์ คัสโทเดียน เดินเครื่องธุรกิจรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล ปักธงให้บริการปี 68 รองรับตลาดผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

CEO กสิกรไทย ติด 1 ใน 30 ผู้นำหญิงทรงอิทธิพล

CEO กสิกรไทย ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 30 ผู้นำหญิงทรงอิทธิพล ภูมิภาคเอเชีย จากการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างความเป็นเลิศทางธุรกิจ

KBTG พัฒนา Face Liveness Detection เติมเต็มโซลูชัน AI

KBTG พัฒนา Face Liveness Detection เติมเต็มโซลูชัน AI เพื่อธุรกิจ การันตีด้วยรางวัลนวัตกรรมการเงินยอดเยี่ยม จาก Global Finance