รายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ประจำเดือนกันยายน 2567 (Asian Development Outlook: ADO) ซึ่งเผยแพร่วันนี้ คาดว่าภูมิภาคจะเติบโตอยู่ที่ 5.0% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับคาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนที่ 4.9% และยังคงประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจปีหน้าไว้ที่ 4.9% เช่นเดิม สำหรับอัตราเงินเฟ้อของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิกในปี 2567 คาดว่าจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 2.8% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 3.2% ท่ามกลางอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งและการส่งออกที่เข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเศรษฐกิจไทย เอดีบีปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในรายงาน Asian Development Outlook ฉบับเดือนกันยายน 2567 มาอยู่ที่ 2.3% ในปี 2567 จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดินเมษายนที่ 2.6% และมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2568 ลงจาก 3% มาอยู่ที่ 2.7% โดยคาดว่าภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะยังคงเป็นแรงสนับสนุนหลักต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะชะลอลงระยะในระยะถัดไปจากภาวะการเงินที่ตึงตัวและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน การส่งออกสินค้าฟื้นตัวได้ช้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคและการลงทุนภาครัฐและเอกชนยังคงอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลด้านต้นทุนการผลิตและการขนส่งที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สําหรับมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่กําลังจะออกมานั้นคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้างในระยะสั้น
เอดีบีชี้ว่ายังคงมีหลายปัจจัยที่ยังต้องติดตามในระยะต่อไปอย่างใกล้ชิด คือ ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง หนี้ SME โดยเฉพาะธุรกิจที่เปราะบาง ปัญหาสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและแผนการลงทุนของภาครัฐ ในส่วนของเสถียรภาพทางด้านราคานั้น ADB คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของประเทศจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.7% ในปีนี้และ 1.3% ในปีหน้า จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวได้ช้า และภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน