ธนาคารพาณิชย์ นัดลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25%

Date:

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ของลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการภาคธุรกิจ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.575% เป็น 7.325% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.30% เป็น 7.175% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.05% เป็น 6.925% ต่อปี 

โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารได้ออกมาตรการพิเศษในการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคลและ SME รายย่อย ตั้งแต่ 16 พฤษภาคม 2567 ถึง 15 พฤศจิกายน 2567 นั้น ธนาคารได้พิจารณาขยายมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวออกไปจนถึง 31 ธันวาคม 2567 

ด้านนายจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพร้อมตอบรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.50% เป็น 2.25% โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสูงสุด 0.25% เพื่อช่วยดูแลและเพิ่มสภาพคล่องโดยการแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการรายเล็กที่รายได้ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวและภาระหนี้ยังอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังเป็นการช่วยพยุงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน 

นอกจากนี้ ธนาคารยังขยายระยะเวลาสำหรับโครงการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมให้สามารถปรับตัวในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วนและยังคงมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย

ทั้งนี้ ธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามรายละเอียด ดังนี้อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR)  ปรับลด 0.12% จาก 7.27% เป็น 7.15% อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลด 0.25% จาก 7.59% เป็น 7.34% อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลด 0.12% จาก 7.30% เป็น 7.18%

ในขณะที่ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังไม่มีการปรับลดแต่อย่างใด โดยให้มีผลในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

ขณะที่ นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.50% เหลือ 2.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและเป็นการช่วยลดภาระหนี้ให้กับประชาชนนั้น ทีทีบีมีความห่วงใยลูกค้าพร้อมขานรับนโยบายดังกล่าว จึงประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย MOR ลดลง 0.25% ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ย MLR และอัตราดอกเบี้ย MRR ลดลง 0.125% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

สำหรับลูกค้ารายย่อยและ SME ในกลุ่มเปราะบาง ทีทีบีตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและสภาพเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มนี้มาก่อนหน้า นอกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ธนาคารยังมีการต่ออายุมาตรการออกไปจนถึง 31 ธันวาคม 2567 จากเดิมที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เพื่อช่วยพยุงสภาพคล่องและลดภาระหนี้ให้กับลูกค้ากลุ่มเปราะบางให้ได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราที่ประกาศอีก 0.25%  ซึ่งจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว มีอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงรวม 0.375-0.50% ต่อปี ทั้งนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะปรับมาตรการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตามความเหมาะสม เมื่อมาตรการดังกล่าวสิ้นสุดลง

สำหรับด้านเงินฝาก เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าเงินออมที่กังวลว่าดอกเบี้ยเงินฝากจะทยอยปรับลดลง ทางทีทีบีมีบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ อัพ แอนด์ อัพ 24 เดือน ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเงินฝากทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะให้ดอกเบี้ยสูงตั้งแต่ 6 เดือนแรก เริ่มต้นที่ 1.5% ต่อปี และรับดอกเบี้ยสูงขึ้นทุก ๆ 6 เดือน โดยรับดอกเบี้ยสูงสุด 2.0% ต่อปี และยังสามารถถอนก่อนครบกำหนดได้หากมีความจำเป็นในการใช้เงิน จึงเหมาะกับทั้งผู้ที่ฝากระยะสั้นก็จะได้รับดอกเบี้ยสูง และหากฝากต่อเนื่องก็จะเป็นการล็อกเรทอัตราดอกเบี้ยที่ดีในระยะยาว 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ยัน​ แก้สัญญา รถไฟความเร็วสูง เชื่อม​ 3 สนามบิน​ ไม่มีเอื้อเอกชน

“สุริยะ”​ ยัน​ แก้สัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม​ 3 สนามบิน​ ไม่มีเอื้อประโยชน์ให้เอกชน เพราะต้องผ่านตาอัยการ

วงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลชื่นมื่น ”นายกฯ อิ๊งค์“ ปิดห้อง รร.โรสวูด

วงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลชื่นมื่น ”นายกฯ อิ๊งค์“ ปิดห้อง รร.โรสวูด พี่สาว ฉลองมิตรภาพครั้งแรก หลังนั่งเก้าอี้นายกฯ

OR ร่วม ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน

OR ร่วม "โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส" ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน

“พีระพันธุ์” ชี้พลังงานปรับตัว มุ่งลดคาร์บอน

“พีระพันธุ์” ชี้ภาคอุตสาหกรรมต้องร่วมมือรัฐ ปรับตัวรับแผนพลังงานใหม่พร้อมเทรนด์โลกที่มุ่งลดคาร์บอน