“วิรไท สันติประภพ” ค้านตั้ง “กิตติรัตน์” นั่งประธานแบงก์ชาติ

Date:

นายวิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)​ โพสต์เฟสบุ๊ก Veerathai Santiprabhob ระบุว่า

“เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของแบงค์ชาติ แต่เป็นเรื่องอนาคตของชาติ

รัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน ไม่มีใครทราบ แต่ถ้าคนการเมืองได้รับเลือกเป็นประธานกรรมการ หรือกรรมการแบงค์ชาติแล้วจะอยู่ได้ครบเทอม

หากประธานกรรมการ หรือกรรมการแบงค์ชาติ ใช้อำนาจที่มีตอบสนองผลประโยชน์ของฝ่ายการเมือง จะส่งผลเสียต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และอาจเกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไข หรือย้อนกลับได้”

ทั้งนี้ นายวิรไท เป็นหนึ่งใน กลุ่มกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ที่ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการครอบงำธนาคารแห่งประเทศไทยโดยกลุ่มการเมือง ว่า 

ในวันที่ 4 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมเพื่อคัดเลือกประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสองท่านในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่ารัฐบาลได้เสนอชื่อบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับฝ่ายการเมืองให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย

กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมและภาคส่วนต่างๆ ในสังคมมีความกังวลอย่างยิ่งถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศถูกครอบงำโดยฝ่ายการเมืองซึ่งอาจเน้นเพียงผลประโยชน์ระยะสั้น เพื่อแสดงผลงานที่รวดเร็วเพราะมีความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจดำรงตำแหน่งได้ไม่ยืนยาวนัก ในขณะที่การเน้นผลระยะสั้นนั้นอาจก่อให้เกิดผลเสียหายรุนแรงต่อเสถียรภาพและการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว

การรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจเป็นภารกิจหลักของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งตามหลักสากลธนาคารกลางควรมีอิสระในการดำเนินนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ อันนำไปสู่ความมั่นคงที่ยั่งยืนในระยะยาว

บทบาทของคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยครอบคลุมภารกิจสำคัญหลายด้าน ได้แก่ การกำกับดูแลการบริหารงานภายในองค์กร การบริหารจัดการทุนสำรองระหว่างประเทศ และการคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการนโยบายที่สำคัญ เช่น คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งมีบทบาทในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย อันเป็นเครื่องมือสำคัญของการดำเนินนโยบายการเงิน หรือคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงินของประเทศ ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและต้องการการกำกับดูแลที่โปร่งใสและปราศจากผลประโยชน์ทางการเมือง หากประธานกรรมการหรือคณะกรรมการใช้อำนาจที่มีตอบสนองผลประโยชน์ระยะสั้นของฝ่ายการเมือง จะส่งผลเสียต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และอาจเกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขหรือย้อนกลับได้

นอกจากนี้ หากการครอบงำครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ก็มีแนวโน้มว่าฝ่ายการเมืองจะใช้วิธีเดียวกันในการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในช่วงกลางถึงปลายปีหน้า โดยส่งบุคคลที่มีความสนิทชิดใกล้ทางการเมืองเข้ามาดำรงตำแหน่งเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมขอเรียกร้องให้คณะกรรมการคัดเลือกที่กำลังจะทำการพิจารณาในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส และมีธรรมาภิบาล โดยไม่ยอมรับแรงกดดันจากการเมือง เพื่อรักษาสถาบันที่สำคัญอย่างธนาคารแห่งประเทศไทยที่สังคมไทยในอดีตได้ร่วมกันพัฒนาและปกป้องมาอย่างดี

พร้อมกันนี้เราขอเชิญชวนภาคส่วนอื่นในสังคมร่วมแสดงจุดยืนโดยการร่วมลงนามในด้านล่างของแถลงการณ์นี้ เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยให้หลุดพ้นจากผลประโยชน์ระยะสั้นทางการเมืองและสามารถรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจไทยในระยะยาว รวมทั้งธำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในสายตาของนานาอารยะประเทศ

ทั้งนี้ การประชุมเพื่อพิจารณาลงมติคัดเลือกประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ธปท. ในวันที่ 4 พ.ย.2567 มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน

บุคคลที่ปรากฏชื่อว่าจะได้รับการคัดเลือกเป็นประธานบอร์ด ธปท. คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ และอดีตที่ปรึกษาของนายกฯ ในยุครัฐบาลเศรษฐา

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสรรหาประธานบอร์ด ธปท. ได้มีการเลื่อนการประชุมลงมติเลือกประธานบอร์ด ธปท. ไปเป็นวันที่ 4 พ.ย. เนื่องจากเลขานุการคณะกรรมการสรรหาฯ ต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม

โดยเมื่อวานนี้ (30 ตุลาคม 2567) นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งหนังสือให้พรรค พท. ให้ชี้แจงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ว่าไม่มีตำแหน่งทางการเมืองในพรรค พท.แล้ว และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค พท.

ทั้งนี้ ตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธปท. มาตรา 18 (5) ระบุว่า กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ธปท. ต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง เว้นแต่จะพ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี

สำหรับนายกิตติรัตน์ ที่ผ่านม จะแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการทำงานของ ธปท. อย่างเปิดเผยทาง ผ่านสื่อและ social media ต่างๆ รวมถึง FB ส่วนตัว เช่น ต้องปลดผู้ว่า ธปท. เพราะไม่ยอมลดดอกเบี้ย เป็นต้น

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

“สุริยะ” หารือ Tesla ร่วมมือด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า

“สุริยะ” หารือ Tesla ร่วมมือด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า - ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ - การใช้พลังงานสะอาด มุ่งสู่ศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค

KKP ลงนามความร่วมมือกับ ปูนอินทรี และ เสนา

KKP ลงนามความร่วมมือกับ ปูนอินทรี และ เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ หนุนอสังหาฯ ไทย ลดการปล่อยคาร์บอน ปรับตัวสู่ความยั่งยืน

“ธนารักษ์” เปิดตัวโครงการ Landlord Sharing

“ธนารักษ์” เปิดตัวโครงการ Landlord Sharing เพื่อยกระดับการบริหารที่ราชพัสดุ รองรับโครงการด้านสังคม

สไปร์ซซี่ ดิสก์ จับมือ กรุงศรี ชวนคนรุ่นใหม่ สร้างสรรค์ความยั่งยืน

สไปร์ซซี่ ดิสก์ จับมือ กรุงศรี ชวนคนรุ่นใหม่ปล่อยไอเดียสร้างสรรค์เพื่อความยั่งยืน ร่วมประกวดออกแบบประติมากรรมน้องกล้วยกรุงศรีจากวัสดุรีไซเคิล