ชี้ทางรอดไทย คือ “อาหารและบริการ”

Date:

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เป็นผู้บรรยายพิเศษ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบเศรษฐกิจและการเมืองโลก การเพิ่มขึ้นของนโยบายปกป้องผลประโยชน์ในประเทศ และโอกาสใหม่สำหรับประเทศไทยในโลกยุคเปลี่ยนผ่าน ในงานสัมมนา KKP Year Ahead 2025: Opportunities Unbound ที่จัดขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าชั้นนำของ KKP 

นายศุภวุฒิ กล่าวว่า แนวโน้มโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง จากการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจไม่ได้หมายถึงเพียงการเปลี่ยนแปลงผู้นำของสหรัฐฯ แต่เป็นการสั่นคลอนโครงสร้างระเบียบโลกแบบที่ทุกคนรู้จัก เพราะทรัมป์ ได้แสดงความต้องการถอนตัวหรือการลดบทบาทองค์กรหรือความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น NATO, WHO และ COP ซึ่งสหรัฐฯ เคยเป็นผู้สนับสนุนสำคัญมาโดยตลอด “การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น จึงจะไม่ใช่แค่ Presidential Change แต่เป็น Paradigm Shift และเป็นความไม่แน่นอนระดับโลก”

ในส่วนของจีน นายศุภวุฒิ ชี้ให้เห็นถึงภาวะ “อ่อนใน-แข็งนอก” จากเศรษฐกิจภายในประเทศที่เปราะบาง เห็นได้จากปัญหาสินค้าคงค้างในภาคอสังหาริมทรัพย์ เงินหยวนที่อ่อนค่า ทำให้กำลังซื้อในประเทศตกต่ำจนกระทั่งเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะเงินฝืด แต่ในเวทีโลก จีนยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการครองตลาดโลกในสินค้าอุตสาหกรรมก้าวหน้า เช่น แผงโซล่าเซลล์และ รถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ยุโรปซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกนั้น ประเทศหลักมีการเติบโตต่ำกว่า 1% และมีความไม่แน่นอนและความเปราะบางทางด้านการเมืองและความมั่นคง ดังนั้นความมั่นใจในด้านเศรษฐกิจคงจะไม่สามารถพลิกฟื้นได้ใน 1-2 ปีข้างหน้า

นายศุภวุฒิ กล่าว่า โอกาสเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความผันผวน ในบริบทของเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน โดยจีนและสหรัฐฯ เผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงและยุโรปอ่อนแอ ดร.ศุภวุฒิมองว่า ประเทศไทยมีทางเลือกใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การเกษตร อาหาร และบริการ

“จีน แม้จะมีประชากรมากถึง 20% ของโลก แต่มีพื้นที่เพื่อการเกษตรน้อยกว่า 10% ของพื้นที่ของโลก และมีทรัพยากรน้ำเท่ากับ 6% ของโลก ดังนั้น จีนจึงจะต้องเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เกษตรรายใหญ่ของโลกไปอีกนาน และนี่คือโอกาสที่ประเทศไทยจะใช้ความได้เปรียบในด้านการเกษตรและอาหารในการ ขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจ”

นอกจากนี้ จีนก็ยังนำเข้าสุทธิการบริการ มีความต้องการในด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งในส่วนนี้ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีของสหรัฐอเมริกา “เพราะไม่ว่าจีนหรือสหรัฐฯ ก็ไม่มีแนวคิดที่จะเก็บภาษีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทย ส่วนภาคอุตสาหกรรมไม่ใช่ว่าจะหายไป แต่จะยังคงมีอุตสาหกรรมเฉพาะเจาะจง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ในส่วนของ assembly, testing and packaging แต่อาจจะไม่ใช่หัวจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (economic engine) ของประเทศไทยในบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป”

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

บมจ.บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป เสนอขาย IPO 60 ล้านหุ้น

บมจ.บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป นำเสนอข้อมูลนักวิเคราะห์ ก่อนเสนอขาย IPO 60 ล้านหุ้น โชว์ศักยภาพ “หนึ่งในผู้นำธุรกิจบ้านมือสอง ตกแต่งใหม่”

โรงไฟฟ้าสำรอง มีความจำเป็นเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน

พลังงาน ชี้ โรงไฟฟ้าสำรอง มีความจำเป็นเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน พร้อมปรับแผนดึงดูดการลงทุน ในราคาค่าไฟที่เหมาะสม

บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี ประกาศไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด 204 ล้านบาท

บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี ประกาศไถ่ถอนหุ้นกู้คืน 204 ล้านบาท ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 พร้อมเตรียมออกหุ้นกู้ 3 ชุด ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.00-7.40% 

บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ กาง Roadmap ลุย Transformation 3 Business

บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ กาง Roadmap ลุย Transformation 3 Business สู่ความยั่งยืนทุกมิติ รุกต่อยอดธุรกิจ Solar - EV- Battery ปั้นรายได้ปี 68 แตะ 1,800 ล้านบาท