
นายประเสริฐ ดีจงกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการฝ่ายทุนธนกิจ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้รับรางวัลตราสารหนี้ยอดเยี่ยม จากงานมอบรางวัลตราสารหนี้ยอดเยี่ยมแห่งปี 2567 (ThaiBMA Best Bond Awards 2024) ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA Awards) โดยปีนี้ธนาคารได้รับทั้งสิ้น 7 รางวัล ประกอบด้วย
1) รางวัล Best Bond House รางวัลยอดเยี่ยมสำหรับสถาบันการเงินที่มีความเป็นเลิศในการทำธุรกรรมตราสารหนี้ทั้งในตลาดแรกและตลาดรองตลอดจนมีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้
2) รางวัล Top Underwriter รางวัลที่มอบให้แก่สถาบันผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้ ที่มีมูลค่ารวมของการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ภาคเอกชนระยะยาวสูงที่สุด
3) รางวัล Best Primary Market Contributor รางวัลที่มอบให้แก่สถาบันการเงินผู้ค้าตราสารหนี้ที่มีสัดส่วนการได้รับจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลสูงสุดในตลาดแรกผ่านการเข้าร่วมประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นที่ออกโดยกระทรวงการคลังในปี งบประมาณ 2567
4) รางวัล Best Secondary Market Contributor รางวัลที่มอบให้แก่สถาบันการเงินผู้ค้าตราสารหนี้ที่มีสัดส่วนการได้รับจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลสูงสุดในตลาดรอง โดยคิดจากมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลรุ่นที่ออกโดยกระทรวงการคลังใน ปีงบประมาณ 2567
5) รางวัล Most Innovative Deal รางวัลที่มอบให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้และผู้จัดจำหน่าย ที่ส่งเสริมความยั่งยืนและมีความโดดเด่นในการระดมทุนอย่างสร้างสรรค์สามารถเป็นต้นแบบให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้รายอื่น ได้แก่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 1 และ ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 2
6) รางวัล Government Sector ESG Bond of the Year รางวัลที่มอบให้แก่ตราสารหนี้ภาครัฐและผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืนของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1
7) รางวัล Deal of the Year รางวัลที่มอบให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้และผู้จัดจำหน่าย ในธุรกิจตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีความโดดเด่นที่สุดในทุกๆด้าน ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 1 – ชุดที่ 5
“การได้รับรางวัลดังกล่าวในครั้งนี้ถือว่าเป็นเกียรติและยิ่งใหญ่มากเพราะได้รับถึง 7 รางวัล โดยเฉพาะปีนี้ได้รับรางวัล Best Bond House ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดที่ประเมินผลจากความเป็นเลิศในหลากหลายมิติ ทั้งการทำธุรกรรมตราสารหนี้ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง รวมถึงการมีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ และรางวัล Top Underwriter ที่มีมูลค่ารวมการจัดจำหน่ายหุ้นกู้เอกชนระยะยาวสูงที่สุดในปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของทั้งผู้ออกตราสารหนี้ และผู้ลงทุนที่มีต่อธนาคารในฐานะ “ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค” ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านธุรกิจการเงิน รวมถึงมีความความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างชัดเจน”
นอกจากนี้ ในจำนวนรางวัลดังกล่าวยังมีถึง 3 รางวัลที่มาจากผลงานความโดดเด่นด้านการออกตราสารหนี้เพื่อระดมทุนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืน โดยหนึ่งในนั้นคือรางวัล Government Sector ESG Bond of the Year ที่ธนาคารได้รับจากการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืนของกระทรวงการคลัง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคารเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยครอบคลุมทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนชุดใหม่ที่จะออกเสนอขายในปี 2568 คาดว่าจะมีการออกเสนอขายใหม่มูลค่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จะมีแนวโน้มอายุเฉลี่ยสั้นลง และส่วนใหญ่จะเป็นการออกตราสารหนี้เพื่อรีไฟแนนซ์ชุดเดิมหรือชำระคืนเงินกู้ มากกว่าจะนำไปลงทุนในโครงการใหม่ๆ ตามสภาวะการลงทุนภาคเอกชนที่มีทิศทางชะลอตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมา
สำหรับทิศทางของผู้ลงทุน แม้จะมีแนวโน้มความต้องการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังค่อนข้างระมัดระวังการลงทุน โดยผู้ลงทุนสถาบัน มักจะลงทุนในตราสารหนี้เรตติ้ง A ขึ้นไป โดยหากเป็นกองทุนตราสารหนี้ จะสนใจลงทุนตราสารหนี้แบบ Zero Coupon Bond ที่อายุไม่เกิน 3 ปี ซึ่งตอบโจทย์เรื่องการบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่า และมีสภาพคล่องในตลาดรองสูงกว่า ขณะที่ผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา จะนิยมตราสารหนี้อายุ 2-4 ปี ที่อันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป แต่ยังคงระมัดระวังการลงทุนในบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
“แม้นักลงทุนจะหันมาสนใจลงทุนในตราสารหนี้เพื่อกระจายความเสี่ยง แต่ก็เห็นชัดว่าเพิ่มความระมัดระวังในการคัดเลือกตราสารหนี้มากขึ้น ซึ่งทางธนาคารพยายามคัดสรรกลุ่มตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงที่เหมาะสม และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ลูกค้า โดยธนาคารยังคงนโยบายการเป็น Sustainability Bond House ที่เน้นจุดแข็ง 5 ด้าน คือ Trust สร้างความไว้วางใจทั้งกับผู้ออกตราสารหนี้และผู้ลงทุน Service พร้อมให้บริการมากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง Market Development ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ พัฒนาตลาดตราสารหนี้ Product Development สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม โดยเฉพาะด้าน ESG และสุดท้าย People Development สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพคู่คุณธรรม มีความเชี่ยวชาญที่จะคอยเป็น “เพื่อนคู่คิด” ให้คำปรึกษาเพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากที่สุด” นายประเสริฐ กล่าว