
นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.การคลัง ได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาทำงานเชิงรุก ในการให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคมกับบริษัทจัดอันดับอีก 2 แห่งที่เหลือ ได้แก่ บริษัท เอสแอนด์พี และ ฟิทซ์ เรทติ้ง ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาเก็บข้อมูลในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ หลังจากที่ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ ได้ปรับลดลดระดับมุมมองไทยจากมีเสถียรภาพ เป็นมุมมองเชิงลบนั้น มองว่า หากไทยไม่เร่งดำเนินการอะไรเพิ่มเติม ก็เสี่ยงถูกลดเครดิตได้ โดยยืนยันว่าไม่มีความกังวล แม้ว่าก่อนหน้านี้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ จะปรับลดมุมมองของไทยลง โดยต้องยอมรับว่าช่วงที่มีการเข้ามาเก็บข้อมูลนั้น จังหวะของเศรษฐกิจไทยอาจจะไม่ดีจริง ๆ เพราะเข้ามาในช่วงแผ่นดินไหว ทำให้เศรษฐกิจไทยเจอกับความเปราะบางในหลาย ๆ ด้าน และยังมีเรื่องมาตรการภาษีจากสหรัฐฯ อีกด้วย
“อีก 2 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่เหลือนั้น เรายังไม่ได้คุยอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่ รมว.การคลัง ให้ความสำคัญอย่างยิ่งหลังจากนี้ คือการให้ข้อมูลเศรษฐกิจและสังคมกับ 2 บริษัทที่เหลือ จึงตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมา เพราะมองว่าหลังจากมูดี้ส์ก็มีโอกาสที่ 2 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่เหลือจะลดมุมมองของไทยด้วยเช่นกัน ทำให้กระทรวงการคลังต้องเร่งทำงานเชิงรุก โดยรอบนี้มีการดึงหน่วยงานด้านสังคม เช่น สำนักงานสิทธิมนุษยชนเข้ามาร่วมด้วย เพื่อประสานการให้ข้อมูลกับ 2 บริษัทที่เหลืออย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังบอกไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วทั้ง 2 บริษัทจะลดมุมมองของไทยเหมือนกับมูดี้ส์หรือไม่” นายพชร กล่าว