ค่าเงินบาท ยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง

Date:

กนง.

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  32.69 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  32.74 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 32.68-32.82 บาทต่อดอลลาร์) แม้ว่าในช่วงแรกเงินบาทจะทยอยอ่อนค่าลง เข้าใกล้โซนแนวต้าน 32.85 บาทต่อดอลลาร์ ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวลงบ้างของราคาทองคำ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ ออกมาดีกว่าคาด อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดย Conference Board ในเดือนพฤษภาคม ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 98 จุด ดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้แถวระดับ 87 จุด ท่ามกลางความหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีน นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ก็ทยอยกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังบอนด์ยีลด์ระยะยาวของสหรัฐฯ ทยอยย่อตัวลงบ้าง ทว่า การย่อตัวลงบ้างของบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ กลับเป็นปัจจัยที่จำกัดการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ขณะเดียวกันก็ช่วยหนุนให้ราคาทองคำสามารถทยอยรีบาวด์สูงขึ้น (นอกเหนือจากปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ร้อนแรงขึ้น และช่วยหนุนความต้องการถือทองคำ) โดยเฉพาะในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย ทำให้เงินบาทก็พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามอานิสงส์การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ 

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราคงมุมมองเดิมว่า ราคาทองคำยังถือเป็นปัจจัยเสี่ยง Two-Way risk ที่อาจทำให้เงินบาทสามารถเคลื่อนไหวแข็งค่า หรือ อ่อนค่าลงได้ ตามทิศทางราคาทองคำ ดังจะเห็นได้จากในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย ที่เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น หลังราคาทองคำสามารถรีบาวด์สูงขึ้นได้ 

อย่างไรก็ดี เรามองว่า หากบรรยากาศในตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง อีกทั้งผู้เล่นในตลาดก็เริ่มลดความสนใจในธีม Sell US Assets ลงบ้าง ก็อาจจำกัดการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ และทำให้ ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideways หรืออาจกล่าวได้ว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของการพักฐานอยู่ โดยหากราคาทองคำ (XAUUSD) สามารถปรับตัวขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้านก่อนหน้า เช่นโซน 3,350-3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจหนุนให้เงินบาทสามารถทยอยแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้อีกครั้ง (แนวรับถัดไปของเงินบาทจะอยู่แถว 32.35 บาทต่อดอลลาร์) 

แต่หากราคาทองคำย่อตัวลงบ้างจากโซนแนวต้าน หรือจากระดับปัจจุบัน เข้าหาโซนแนวรับแถวโซน 3,200-3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจช่วยหนุนให้เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้ไม่ยาก แต่โดยรวมการอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด โดยมีโซนแนวต้านแถว 32.85 บาทต่อดอลลาร์ และโซนแนวต้านถัดไปในช่วง 33.00 บาทต่อดอลลาร์ 

โดยรวมเราประเมินว่า เงินบาทอาจยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideways ที่กว้างพอสมควร แต่ก็มีโอกาสเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways Up หรือทยอยอ่อนค่าลงมากขึ้น ตราบใดที่ตลาดการเงินอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมออกมาสดใส ดีกว่าคาด และที่สำคัญ ตลาดควรทยอยคลายกังวลแนวโน้มเสถียรภาพการคลังของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่หนุนธีม Sell US Assets ได้ นอกจากนี้ เราขอเน้นย้ำว่า พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงนี้ ได้สะท้อนว่า ตลาดค่าเงินยังอยู่ในภาวะผันผวนสูง ทำให้เรายังคงแนะนำผู้เล่นในตลาดว่า ควรใช้กลยุทธ์ในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์ Options และการพิจารณาใช้ Local Currency เนื่องจากบางสกุลเงิน อย่าง CNYTHB ก็มีความผันผวนที่ต่ำกว่า USDTHB อย่างเห็นได้ชัด 

มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.50-32.85 บาท/ดอลลาร์ 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กยศ. ชะลอการหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาท

กยศ. ชะลอการหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาท ตั้งแต่ มิ.ย. 2568

นายกฯ เผยผู้นำคุยกันรู้เรื่อง ปมปะทะชายแดน

นายกฯ เผยผู้นำคุยกันรู้เรื่อง ปมปะทะชายแดน มั่นใจคลี่คลายได้ บอกตามหลักเกณฑ์หากแรงขึ้นต้องเสริมกำลัง

ดัชนีราคาส่งออก และนำเข้าไทย เดือนเม.ย.68 ยังขยายตัว

ดัชนีราคาส่งออก และนำเข้าของไทย เดือนเม.ย.68 ยังขยายตัว ตามการเร่งส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมต่อเนื่อง

นายกฯ บอก ”อย่าเพิ่งเบื่อกัน”

นายกฯ ยันพรรคร่วมฯแค่เห็นไม่ตรง แต่ไม่แตกกัน ปัดกระแสเปลี่ยนนายกฯ บอก “อย่าเพิ่งเบื่อกัน”