รมช.คลัง เชื่อมือรมว.คลัง เอาฐานะการคลังประเทศอยู่

Date:

นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง โพสต์เฟสบุ๊ก “Vorapak Tanyawong” ระบุว่า

ของกระทรวงอื่นไม่ทราบว่าโจทย์จาก TDRI จะถูกต้องขนาดไหนแต่ของกระทรวงการคลังถือว่าตั้งโจทย์ ได้ตรงกับปัญหาพอสมควรครับ  

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเพิ่งเขียนถึงการที่ฝรั่งเศส 

ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (downgrade) โดยเครดิตเรทติ้งเอเจนซี่ เหตุผลสำคัญคือ ฐานะการเงินการคลังที่อ่อนแอ และ ความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถเดินหน้านโยบายได้อย่างต่อเนื่อง

แต่เพียงไม่นาน มาถึงวันนี้ เมื่อรัฐบาลใหม่ของฝรั่งเศสพยายามจะเดินหน้านโยบาย “รัดเข็มขัด” (fiscal tightening) เพื่อกู้สถานะทางการคลังกลับคืนมา ก็ถูกประชาชนกว่า ครึ่งล้านคนออกมาประท้วง ปิดการคมนาคม หยุดงาน และสร้างแรงกดดันทางการเมืองอีกครั้ง สะท้อนปัญหาคลาสสิกของประเทศที่ติดอยู่ใน “กับดักหนี้สาธารณะ”

บทเรียนสำคัญจากฝรั่งเศส

 1. ฐานะการคลังที่อ่อนแอเป็นจุดเริ่มของความเปราะบาง

 • การขาดดุลต่อเนื่องและหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงขึ้นเกิน 100% ของ GDP ทำให้รัฐบาลต้องเข้าสู่เส้นทางรัดเข็มขัด

 • แต่ทุกมาตรการรัดเข็มขัดย่อมกระทบประชาชนโดยตรง และเสี่ยงสร้างแรงต้านทางสังคม

 2. การเมืองที่ไม่มั่นคงทำให้การคลังยิ่งจัดการยาก

 • ฝรั่งเศสเพิ่งเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาหลายคนในระยะเวลาอันสั้น

 • งบประมาณกลายเป็น “สมรภูมิการเมือง” มากกว่านโยบายทางเศรษฐกิจ ทำให้การปฏิรูปเชิงโครงสร้างแทบเดินหน้าไม่ได้

 3. ถ้าไม่เพิ่มรายได้ ก็หนีไม่พ้นต้องตัดรายจ่าย

 • ปัญหาการจัดเก็บรายได้ไม่พอเพียงต่อการใช้จ่ายภาครัฐ ทำให้ทางเลือกสุดท้ายคือการลดสวัสดิการ ลดวันหยุด หรือปรับขึ้นภาษี ซึ่งสร้างความไม่พอใจในวงกว้าง

บทเรียนสำหรับประเทศไทย

ประเทศไทยเองก็มี สัญญาณเตือน ไม่ต่างจากฝรั่งเศส

 • ระดับหนี้สาธารณะกำลังแตะ 65% ของ GDP และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 • รายได้ภาครัฐเติบโตช้ากว่ารายจ่ายโครงสร้างที่แข็งตัว เช่น เงินเดือนข้าราชการ สวัสดิการ และดอกเบี้ยหนี้

 • เศรษฐกิจไทยเผชิญข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง ทำให้ การเติบโต (growth) ไม่สูงพอ จะช่วยแก้โจทย์การคลัง

หากไทยไม่สามารถ ขยายฐานรายได้ใหม่ (เช่น การปฏิรูปภาษี, ดึงดูดการลงทุน, สร้าง S-Curve ใหม่) หรือไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตเร็วกว่าแรงกดดันทางรายจ่ายได้ วันหนึ่งเราอาจต้องเผชิญ มาตรการรัดเข็มขัด เช่นเดียวกับฝรั่งเศส และก็มีความเสี่ยงที่จะเจอกับแรงต่อต้านจากประชาชนเหมือนกัน

Lesson Learned

1. รัดเข็มขัดโดยไม่เพิ่มรายได้ = เสี่ยงถูกต่อต้าน

ประเทศไทยควรหาทางสร้างรายได้ใหม่ให้เพียงพอ ก่อนที่การปรับลดรายจ่ายจะกลายเป็น “ชนวนประท้วง”

2. เสถียรภาพทางการเมืองคือกุญแจสำคัญ

ถ้าไม่สามารถสร้างฉันทามติทางการเมือง การปฏิรูปการคลังจะกลายเป็นสมรภูมิที่ไม่มีใครชนะ

3. เติบโตแบบมีคุณภาพคือคำตอบระยะยาว

ไทยต้องหาวิธีสร้างแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ เพื่อไม่ให้ทุกครั้งที่พูดถึงวินัยการคลัง ต้องพึ่งแต่มาตรการรัดเข็มขัด

ท่านเอกนิติ  ว่าที่รองนายกฯเศรษฐกิจและว่าที่  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังมีประสบการณ์และเข้าใจเรื่องนโยบายการคลังรวมทั้งวินัยการคลังเป็นอย่างดี รวมทั้งยังเป็นผู้มีประสบการณ์มากกับกรมจัดเก็บรายได้ที่สำคัญของประเทศหลายกรม

ท่านมาถูกที่ถูกเวลาแน่นอนครับ ถึงแม้เวลาให้ปฏิบัติงานอาจจะสั้นหน่อยแต่ผมมั่นใจว่าท่านคงจะทำการเปลี่ยนแปลงในทางบวกได้อย่างมาก จากที่ได้หารือกันหลายรอบก่อนหน้านี้ 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

BPP โชว์กำไร 1,161 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 68

BPP เดินหน้าปรับพอร์ตหนุนธุรกิจโตแกร่ง สู่ ‘Power+’ โชว์กำไร 1,161 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 68

โฆษกรัฐบาล ย้ำ นายกฯหนักแน่นแก้ชายแดน 

โฆษกรัฐบาล ย้ำ นายกฯหนักแน่นแก้ชายแดน สหรัฐฯ แยกเรื่องการค้า กับปมขัดแย้งไทย-เขมร

GPSC จับมือ GCL ร่วมศึกษาพัฒนา Data Center

GPSC จับมือ GCL ร่วมศึกษาพัฒนา Data Center และพลังงานสะอาด พร้อมเพิ่มมูลค่าจากโครงข่ายไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพสูงสุด 

ราช กรุ๊ป ประกาศกำไร 9 เดือนแรก 5,445 ล้านบาท

ราช กรุ๊ป ประกาศกำไร 9 เดือนแรก 5,445 ล้านบาท พร้อมเข้าร่วมโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน และ Direct PPA ตามนโยบาย Quick Big Win