
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมอบรางวัลสุดยอดผู้นำองค์กร (สุดยอดซีอีโอ) หรือ CEO ECONMASS AWARDS 2025 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยมีนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้รับมอบรางวัลสุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจ สาขา Social สำหรับรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสร้างต้นแบบ “ซีอีโอ” ที่มีศักยภาพในการนำพาองค์กรก้าวสู่ความสำเร็จและสร้าง แรงบันดาลใจให้กับซีอีโอรุ่นต่อไป โดยขับเคลื่อนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการยึดมั่นในจริยธรรมและมีธรรมาภิบาล ตลอดจนคำนึงถึงผลต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลประโยชน์ ต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระบวนการคัดเลือกเป็นไปตามหลักวิชาการที่เป็นมาตรฐานสากลจากคณะกรรมการคัดเลือก ที่มีประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยพิธีรับรางวัลดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ

สำหรับรางวัล สุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจสาขา Social นับเป็นการยกย่องผู้บริหารสูงสุดขององค์กรรัฐวิสาหกิจที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการขับเคลื่อนงานดังกล่าวโดย ธ.ก.ส. กำหนดยุทธศาสตร์ในการดูแลสังคมและสร้าง Social Impact อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG (Environmental Social and Governance) และโมเดลธุรกิจ BCG เพื่อสร้างผลลัพธ์การดำเนินงานที่ดี รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนให้องค์กร การสร้างคนรุ่นใหม่ให้มาสนใจภาคเกษตรกรรมและมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้เทียบเท่ากับการทำงานในเมืองผ่านโครงการเกษตรธนากร โดยเติมความรู้ทักษะด้านการเกษตรสมัยใหม่ ความรู้ทางการเงินให้กับเยาวชนในโรงเรียน เพื่อปูทางไปสู่การเป็นผู้ประกอบการทางการเกษตรในอนาคต การดึงคนที่มีความรู้ประสบการณ์ทั้งด้านเทคโนโลยีและการตลาดเข้ามาพัฒนาภาคการเกษตร ผ่านโครงการสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ โดยเปิดโอกาสให้พนักงานทั้งภาครัฐและเอกชน ข้าราชการที่เตรียมเกษียณอายุได้มีโอกาสสร้างรายได้จากการเป็นผู้ประกอบการทางการเกษตร ซึ่งถือเป็นการพัฒนาและเติมคนเข้าสู่ภาคการเกษตร ทดแทนเกษตรกรที่อายุมากขึ้น ทำให้ภาคเกษตรกรรมมีความเข้มแข็ง
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. เตรียมเปิดช่องทางการตลาด เพื่อให้ลูกค้าสามารถขายสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ “BAAC Matching” โดยรวบรวมและเชื่อมโยงสินค้าเกษตรติดแกลมจากเกษตรกรทั่วประเทศออกสู่ตลาด คาดว่าจะเริ่มเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมถึงการดำเนินโครงการเปลี่ยนอากาศให้เป็นเงิน “BAAC Carbon Credit” ซึ่งถือเป็น Social Innovation ที่ช่วยส่งเสริมให้คนในชนบทมี Passive Income จากการปลูกต้นไม้ โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนการยกระดับชุมชนธนาคารต้นไม้ไปสู่การซื้อ – ขายคาร์บอนเครดิตในประเทศตามโครงการลดก๊าซเรือนกระจก (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) เพื่อตอบโจทย์ภาคธุรกิจในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์และสนับสนุนนโยบายของประเทศในการแก้ไขปัญหาด้านภูมิอากาศ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 โดยการดำเนินงานทั้งหมดเน้นหลักธรรมาภิบาลในการนำองค์กร การมุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับภาคการเกษตรให้มีความเข้มแข็ง เสริมสร้างคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป