ธนาคารกรุงเทพ กำไร 9 เดือน ปี 68 จำนวน 38,247 ล้านบาท

Date:

ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนปี 2568 จำนวน 38,247 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนปี 2568 จำนวน 38,247 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ ด้วยการกระจายแหล่งที่มาของรายได้ที่หลากหลาย ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายด้าน  โดยธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 94,364 ล้านบาท และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.81 ซึ่งเป็นไปตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย 

สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และกำไรจากเงินลงทุน  ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงเล็กน้อยจากบริการธุรกรรมผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวม

ทั้งนี้ ธนาคาร ยังคงพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็นร้อยละ 44.7  นอกจากนี้ จากการที่ธนาคารตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง ธนาคารจึงตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 ลดลงจากไตรมาสก่อน ทำให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับ 9 เดือนปี 2568 มีจำนวน 29,549 ล้านบาท 

ธนาคารกรุงเทพยังคงแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,606,661 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.2 จากสิ้นปีก่อน โดยสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ยังคงมีการเติบโต  สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต ต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ซึ่งอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 294.2 เป็นผลจากการที่ธนาคารยึดหลักการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง 

ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 จำนวน 3,174,287 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปีก่อน และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 82.1  ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 22.6 ร้อยละ 18.0 และร้อยละ 18.0 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ธนกร สั่งลุยให้อำนาจเต็มเหนี่ยว ปิด 2 โรงงาน

ธนกร สั่งลุยให้อำนาจเต็มเหนี่ยว ปิด 2 โรงงานบางส่วน หลังพบเข้าข่ายทำผิด พ.ร.บ. โรงงานฯย้ำ ห้ามทำประชาชนเดือดร้อนเด็ดขาด!

ส.อ.ท. จับมือ ธปท. ผนึกกำลังรับมือบาทแข็ง–ภาษีสหรัฐฯ

ส.อ.ท. จับมือ ธปท. ผนึกกำลังเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย รับมือบาทแข็ง–ภาษีสหรัฐฯ–ปัญหาสภาพคล่องธุรกิจ

นายกฯ อนุทิน เผยเดี๋ยวมี คนละครึ่งพลัสเฟส 2

นายกฯ อนุทิน เผยเดี๋ยวมี คนละครึ่งพลัสเฟส 2 หลังปชช.แห่ลงสิทธิ์เต็มเร็ว

กบข. จัดงาน “GPF Fund Fair 2025”

กบข. จัดงาน “GPF Fund Fair 2025” ที่กรุงเทพฯ ส่งเสริมให้สมาชิกวางแผนการเงินเพื่อเกษียณมีสุข