
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า โครงการ “สลากเพื่อการออม” ได้ออกแบบ วิธีการ กลไกต่างๆ เสร็จหมดแล้ว แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนถูกต้องอย่างแท้จริง ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ทำหนังสือถามสำนักงานกฤษฎีกา ว่าเป็นอำนาจของรัฐมนตรีที่จะจัดสรรเงินนี้ให้กับผู้ที่ซื้อสลากฯ และไม่ถูกรางวัลได้ใช่ไหม และสำนักงานสลากฯ สามารถจะดำเนินการเรื่องนี้ได้ตามกำหมายที่มีอยู่ใช่หรือไม่
“สำนักงานสลากฯ ต้องการความมั่นใจว่าการทำสลากเพื่อการออม ทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง โดยความรู้สึกเราคิดว่าเราทำได้อยู่แล้วแต่ว่าถามกฤษฎีกาให้มันให้ให้แน่นอนดีกว่าจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง” นายลวรณ กล่าว
สำหรับเงินที่จะนำมาคืนเป็นเงินออมให้กับผู้ซื้อสลากฯ และไม่ถูกรางวัล จะมาจากส่วนของการบริการจัดการของสำนักงานสลากที่มีอยู่ 17% ทุกวันนี้ใน 17% ส่วนหนึ่งคือ 12% นำไปให้คนขายสลาในการเป็นส่วนลดใบละ 9.60 บาท
ส่วนที่เหลือ 5% เป็นส่วนที่สำนักงานใช้บริหารจัดการได้ตามความเป็นจริง หากเหลือต้องส่งคืนให้กระทรวงการคลัง ไม่สามารถนำเก็บสะสมไว้ได้
ซึ่ง สลากเพื่อการออก ต้องการนำเงินในส่วนของ 5% แบ่งออกมาให้กับคนที่ซื้อสลากและไม่ถูกรางวัล จะสามารถทำได้ใช่ไหม จึงทำเรื่องถามไปยังสำนักงานกฤษฎีกา เพื่อให้เกิดความรอบคอบ จะได้ไม่มีปัญหา
“รายละเอียดของโครงการ สลากเพื่อการออก เสร็จหมดแล้ว จำนวนเงินที่จะคืนให้เป็นเงินออกก็ได้แล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยและจะให้ รองนายกฯ และรมว.คลัง แถลงรายละเอียดทั้งหมด หากไม่มีปัญหา ทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในเดือน ธ.ค. 2568 และจะเริ่ม สลากเพื่อการออม ได้งวดของเดือนมกราคม 2568” นายลวรณ กล่าว
ทั้งนี้ในส่วนของเงินออมของผู้ซื้อสลาก และไม่ถูกรางวัล สามารถตรวจได้ได้ตลอดเวลาใน แอปเป๋าตัง ซึ่งทางสำนักงานสลากฯ จะนำเงินของออมทั้งหมดรวมกันเพื่อไปบริการเกิดดอกผลมากขึ้น เพื่อให้ผู้ที่มีเงินสลากเพื่อการออม มีเงินใช้หลังเกษียนอายุเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ เบื้องต้น ทางสำนักงานสลากฯ ได้หารือกับสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ทำเรื่องการสร้างวัฒนธรรมการลงทุนระยะยาวผ่านบัญชีการลงทุนส่วนบุคคล (Individual Investment Account) ซึ่งได้ประสานกับทาง ก.ล.ต. ว่าหากทำเสร็จทัน ก็จะร่วมมือกันกับสำนักงานสลากฯ นำเงินสลากเพื่อการออก เป็นผลิตภัณฑ์อันแรกของ Individual Investment Account ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
นายลวรณ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ซื้อสลากดิจิทัลงวดละ 3 ล้านคน ถือเป็นจำนวนเงินที่เข้าไปใน สลากเพื่อการออม จำนวนไม่น้อย แม้ว่าดูเป็นรายบุคคลจะน้อยเหมือนเป็นเบี้ยหัวแตกก็ตาม ซึ่งหาก ก.ล.ต. ทำเรื่องนี้ได้ทัน ก็จะร่วมมือกันทำให้เกิดประโยชน์ในหลายๆ เรื่องไปพร้อมกันทั้งระบบ




