
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ ได้ลงนามในประกาศคำสั่งให้สถาบันการเงินตรวจสอบการทำธุรเงินตราต่างประเทศของกับลูกค้า
ประกาศดังกล่าวผู้ว่าการแบงก์ชาติได้ทำหนังสือถึงธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ธนาคารออมสินธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรโดยมีเนื้อหาที่สำคัญดังต่อไปนี้
เนื่องด้วยในช่วงที่ผ่านมาเงินตราต่างประเทศไหลเข้าออกในปริมาณสูง ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนธนาคารแห่งประเทศไทย จึงขอความร่วมมือนิติบุคคลรับอนุญาตในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานกรณีการรับซื้อหรือฝากเงินตราต่างประเทศที่มาจากต่างประเทศของลูกค้าที่เป็นบุคคลที่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศ เพื่อให้การทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศดังกล่าวเป็นไปเพื่อการค้าและการลงทุนตรงตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งดังต่อไปนี้
1 การรับซื้อเงินตราต่างประเทศที่ได้รับมาจากต่างประเทศ
1.1 ในการรับซื้อเงินตราต่างประเทศที่เป็นธุรกรรมทันทีให้นิติบุคคลรับอนุญาตถือปฏิบัติดังนี้
1.1.1 กรณีเงินตราต่างประเทศที่ไม่เกี่ยวกับค่าทองคำและธนบัตรเงินตราต่างประเทศมีจำนวนเงินตั้งแต่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐสหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่า ให้นิติบุคคลรับอนุญาตต้องเรียกเอกสารจากลูกค้าในธุรการที่เป็นรายทุกกรรมในวันทำธุกรรม หรือไม่เกินวันครบกำหนดชำระเงินหากมีความจำเป็นยกเว้นกรณีที่เป็นพฤติกรรมปกติของลูกค้าที่นิติบุคคลรับอนุญาตรู้จักดีและมีการทำ Know Your Customer (KYC) และ Customer Due Dilgence (CDD) ซีดีดีอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถใช้กระบวยการ KNOW YOUR BusiNess (KYB) ได้ อย่างไรก็ดีหากการทำธุรกรรมมีมีวัตถุประสงค์ตาม 4 ข้อด้านล่างและมีจำนวนเงินตั้งแต่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่า ให้นิติบุคคลรับอนุญาตเรียกเอกสารประกอบการทำธุรกรรมโดยไม่สามารถใช้กระบวนการ KYB ได้
1 เงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย
2 ค่าสินทรัพย์ดิจิทัล
3 เงินทุนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เงินลงทุนในเครือ/สาขา เงินลงทุนในหลักทรัพย์ เงินกู้ เงินให้กู้ยืม และเงินส่วนต่างธุรกรรมอนุพันธ์
4 วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ค่าสินค้า บริการ รายได้ และเงินโอนและบริจาค เงินลงทุน ธนบัตรและเงินฝาก
อนึ่ง การทำธุรกรรมเพื่อวัตถุประสงค์ค่าสินทรัพย์ดิจิทัล ให้เรียกเอกสารแสดงแหล่งที่มาของสินทรัพย์ดิจิทัล หรือแหล่งที่มาของเงินที่นำไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติมด้วย
1.1.2 กรณีเงินตราต่างประเทศที่เกี่ยวกับทองคำ ให้เรียกเอกสารที่แสดงว่าลูกค้ามีการขายทองคำในต่างประเทศทุกจำนวนเป็นรายธุรกรรมในวันทำธุรกรรม เว้นแต่เป็นการทธุรกรรมนอกเวลาทำการให้เรียกเอกสารดังกล่าวภายในวันทำการถัดไป รวมทั้งเรียกเอกสารเรียกเก็บเงินและเอกสารใบขนทองคำไม่เกิน 2 วันทำการนับจากวันครบกำหนดชำระเงิน
1.1.3 กรณีธนบัตรเงินตราต่างประเทศที่มีจำนวนเงินตั้งแต่ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าให้เรียกให้เรียกเอกสารแสดงการนำเงินต่างประเทศเข้ามาในประเทศ
1.2 ในการรับซื้อเงินตราต่างประเทศที่ได้มาจากต่างประเทศที่เป็นธุรกรรมล่วงหน้าให้นิติบุคคลรับอนุญาตถือปฏิบัติตามข้อ 17 (2) ของประกาศเจ้าพนักงานควบคุมแลกเปลี่ยนเงิน เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับแลกเปลี่ยนเงิน ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 และแก้ไขเพิ่มเติม เช่นเดิม ทั้งนี้ไม่รวมถึงการทำธุรกรรมล่วงหน้าเพื่อวัตถุประสงค์ตามข้อ 1.1.1.(1) – (4) ให้นิติบุคคลรับอนุญาตเรียกเอกสารประกอบการทำธุรกรรมโดยไม่สามารถใช้กระบวนการ KYB ได้
2 การรับฝากเงินที่ได้รับจากต่างประเทศเข้าบัญชีเงินฝากตราเข้าบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศของบุคคลที่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศ
ให้นิติบุคคลรับอนุญาตถือปฏิบัติเช่นเดียวกับการซื้อเงินตราต่างประเทศที่เป็นธุรกรรมทันทีตามแต่ละกรณีดังกล่าวข้างต้นด้วย
จึงเรียนมาเพื่อทราบและขอความร่วมมือปฏิบัติตามวิธีการข้างต้นตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไปและโปรดแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยทั่วกัน






