เงินเฟ้อทั่วไปสูงเกินกรอบตลอดปี

Date:

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ.2565 (1 มกราคม- 30 มิถุนายน 2565 ) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1.เป้าหมายนโยบายการเงินสำหรับปี 2565 โดยครม. เคยมีมติอนุมัติให้ใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงร้อยละ 1-3 เป็นเป้าหมายนโยบายการเงิน และกนง.เคยประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้า ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 (เมษายน-มิถุนายน) ปี 2565 ถึงไตรมาสที่ 1 (มกราคม-มีนาคม) ปี 2566 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.1 ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน

2.เรื่องการประเมินภาวะเศรษฐกิจการเงินและเสถียรภาพระบบการเงิน เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 2.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยการบริโภคภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้นจากหมวดบริการเป็นสำคัญ ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคการค้าและภาคบริการฟื้นตัว ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาคการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ขยายตัว อีกทั้ง เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 โดยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 และ 4.2 ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะในหมวดบริการและจากภาคท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านตลาดแรงงานมีสัญญาณดีขึ้น โดยจำนวนผู้ว่างงานปรับลดลงเข้าใกล้ระดับก่อนสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5.6 สูงกว่ากรอบเป้าหมาย โดยเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงาน ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับสูงขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและยูเครน ประกอบกับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศและอัตราเงินเฟ้อในหมวดอาหารสดที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2565 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6.2 และมีแนวโน้มสูงเกินกรอบเป้าหมายตลอดปี จากราคาน้ำมันโลกที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยลดลง และกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 2566 ที่ร้อยละ 2.5

ส่วนเรื่องเสถียรภาพระบบการเงิน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่ยังมีความเปราะบางในบางจุด โดยเฉพาะภาคครัวเรือนและบางภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ระบบธนาคารพาณิชย์ยังกระจายสภาพคล่อง เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง ส่วนเสถียรภาพด้านต่างประเทศยังคงเข้มแข็ง โดยสะท้อนจากเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง และหนี้ต่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ และสถาบันการเงินไทยในภาพรวม มีสภาพคล่องและมีฐานะทางการเงินที่สามารถรองรับภาวะวิกฤตได้

3.การดำเนินนโยบายการเงิน โดยกนง. ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง สำหรับการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนนั้น เห็นควรผลักดันการสร้างระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยน (FX Ecosystem) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้มีการป้องกันความเสี่ยงจากความผัวผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน เห็นควรให้มีมาตรการเฉพาะสำหรับกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจบางกลุ่ม ที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ระยะยาวของลูกหนี้ และประการสุดท้ายคือ การสื่อสารแนวนโยบายการเงินในประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายการเงินด้วย

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ทีเอ็มบีธนชาตกำไร 9 เดือน 15,919 ล้านบาท

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิที่ 5,230 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567 รวมเป็นกำไรสุทธิรอบ 9 เดือน ที่ 15,919 ล้านบาท

ห้ามขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลขสามหลัก ให้เด็กอายุต่ำ 20 ปี

สำนักงานสลากฯ เข้ม ห้ามขายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และใกล้สถานศึกษา เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อรับสมัครตัวแทน 

ออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25%

ออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% มีผล 1 พ.ย. 67 ตรึงดอกเบี้ยเงินฝาก ตามภารกิจส่งเสริมการออม

เร่งประชุม คกก. ไตรภาคี ถกขึ้นค่าแรง​ 400 บาท ทันที​ 

ปลัดแรงงาน​ ยัน​ เร่งประชุม คกก. ไตรภาคี​ ถกขึ้นค่าแรง​ 400 บาททันที​ หลังแต่งตั้งอธิบดีชุดใหม่จบ​ ไม่รับปากทันปี​ 67 แต่จะทำอย่างเต็มที่