ตามที่นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) สั่งให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วและดำเนินการอื่นใด เพื่อให้บริษัทได้รับเงิน ไม่น้อยกว่าจำนวน 95 ล้านบาท โดยให้บริษัทดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ตามข้อ 1 (1) ของคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567
ต่อมาเมื่อครบกำหนดในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ปรากฏว่าบริษัทได้มีหนังสือขอขยายระยะเวลาการแก้ไขฐานะและการดำเนินการ โดยบริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 35 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้รับเงินวางเพื่อแสดงเจตนาการซื้อหุ้นที่บริษัทถืออยู่ในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เคดับบลิวไอ จำกัด (KWIAM) จำนวน 25 ล้านบาท รวมเป็นเงินจำนวน 60 ล้านบาท อีกทั้งได้แสดงแผนการแก้ไขฐานะการเงิน โดยจะจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมจากการขายหุ้น KWIAM อีกจำนวน 35 ล้านบาท ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 รวมเป็นเงินเพิ่มทุนทั้งสิ้นจำนวน 95 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทได้แก้ไขการดำเนินการ ดังนี้ 1. แก้ไขสัญญาค่าบริการ Shared Services Agreement ไม่ให้มีการจ่ายเงินล่วงหน้าก่อนรับบริการเรียบร้อยแล้ว 2. เรียกคืนเงินวางมัดจำเพื่อจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ จำนวน 100 ล้านบาท คืนสู่บริษัทเรียบร้อยแล้ว 3. เรียกคืนเงินเบิกล่วงหน้าที่ไม่มีหลักฐานการแสดงตนของผู้รับเงินเรียบร้อยแล้ว
จากข้อเท็จจริงและหลักฐานที่ปรากฏดังกล่าว นายทะเบียนจึงเห็นว่า บริษัทมีความคืบหน้าในการแก้ไขฐานะและการดำเนินการตามคำสั่งนายทะเบียน และมีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะดำเนินการแก้ไขฐานะและการดำเนินการได้ตามที่ร้องขอ ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชนในอนาคต จึงมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการของบริษัทตามที่บริษัทร้องขอ โดยบริษัทจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการตามข้อ 1 (1) ของคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้ว หรือดำเนินการอื่นใด เพื่อให้บริษัทได้รับเงินเพิ่มเติมจำนวนไม่น้อยกว่า 95 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ทั้งนี้บริษัทยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งดังกล่าว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ในกรณีที่บริษัทไม่สามารดำเนินการได้ หรือปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทมีการดำเนินการที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพิ่มเติม หรือนายทะเบียนพิจารณาแล้วเห็นว่า หากรอให้ครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน จะดำเนินการตามมาตรการ ทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ การออกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวจะไม่กระทบในส่วนของความคุ้มครองและ การได้รับชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยที่มีต่อบริษัท โดยบริษัทยังมีหน้าที่ดูแลผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนให้เป็นไปตามข้อกำหนดแห่งสัญญาประกันภัยทุกประการ หากผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ www.oic.or.th