เชื่อมโยงข้อมูลดำเนินคดีผู้กระทำความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัย

Date:

“คปภ. – สอบสวนกลาง” ลงนาม MOU เชื่อมโยงข้อมูลดำเนินคดีผู้กระทำความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัย

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้บูรณาการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินคดีและการประสานข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมระหว่าง ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) โดยมีนายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และ พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน ณ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือในการเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน และเปิดเผยข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวกับข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย ที่มีการจัดทำและครอบครองโดยสำนักงาน คปภ. เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน รวมทั้งประสานงานดำเนินการทางคดีที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย หรือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

สำหรับขอบเขตความร่วมมือดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องระหว่างหน่วยงานตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้มี 4 ประเด็นหลัก ๆ คือ

ประเด็นแรก สำนักงาน คปภ. และ บช.ก. จะเชื่อมโยงเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวกับข้อมูลการประกันภัย และข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย ที่มีการจัดทำและครอบครองโดยสำนักงาน คปภ. ตามที่ได้รับการร้องขอจาก บช.ก. เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ ภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ประเด็นที่ 2 บช.ก. จะพัฒนาและเชื่อมโยงระบบตรวจสอบบุคคลเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมกับสำนักงาน คปภ. ตามช่องทางที่ได้ตกลงกัน

ประเด็นที่ 3 บช.ก. จะประสานงานและดำเนินการทางคดีให้สำนักงาน คปภ. เกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย หรือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

ประเด็นที่ 4 ในการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ สำนักงาน คปภ. และ บช.ก. ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายว่าด้วยการข้อมูลข่าวสารของราชการ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ เป็นต้น และต้องไม่นำข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายไปใช้ในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่เจ้าของข้อมูล หากมีความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการกระทำของผู้ที่นำข้อมูลไปใช้จะต้องรับผิดทั้งในทางอาญา หรือทางแพ่งแล้วแต่กรณี

เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า จากความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านประกันภัยระหว่างสำนักงาน คปภ. และ บช.ก. อย่างใกล้ชิด ส่งผลให้การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดด้านฉ้อฉลประกันภัยมีความรอบคอบ รัดกุม รวดเร็ว และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยเห็นได้จากความคืบหน้าของการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดด้านประกันภัย ตามที่สำนักงาน คปภ. ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ก่อนหน้านี้ จึงได้มอบหมายให้นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมายและคดี ร่วมแถลงข่าวกับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบ.ปอศ.) เกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ที่ถูกร้องทุกข์กล่าวหาดังกล่าว โดย พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สำนักงาน คปภ. เข้าหารือและร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ที่มีพฤติกรรมฉ้อฉลประกันภัยจำนวน 27 เรื่อง เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ต่อจากนั้นพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ได้ดำเนินการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 23 ราย ต่อศาลอาญา และได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ปลอมเอกสารผลการตรวจโรคโควิด-19 เพื่อนำไปเรียกร้องผลประโยชน์จากการทำประกันโดยทุจริต จำนวน 11 ราย และจับกุมตัวแทนบริษัทประกันชีวิตที่หลอกลวงให้คนทั่วไปเข้าทำสัญญาประกันชีวิต แต่ภายหลังกลับไม่ได้ดำเนินการให้มีการทำสัญญาประกันภัยเกิดขึ้นหรือไม่ดำเนินการรักษาสถานะของสัญญาประกันชีวิตดังกล่าว จำนวน 3 ราย รวมจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 14 ราย จาก 23 ราย โดยพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. อยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“การฉ้อฉลประกันภัยส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้เอาประกันภัยผู้บริสุทธิ์และเป็นอันตรายต่อระบบประกันภัย โดยการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัยในครั้งนี้ เพื่อบังคับใช้บทบัญญัติในเรื่องการฉ้อฉลประกันภัยให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นการป้องกันมิให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อของผู้ที่ฉวยโอกาส สำนักงาน คปภ. จะร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอย่างเต็มที่ในการบังคับกฎหมายอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้กับประชาชนและระบบประกันภัยของไทยให้มีความมั่นคงบนความเชื่อมั่นของประชาชนที่ยั่งยืนต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าว

Share post:

spot_img

Related articles

แนะรัฐบาลขึ้นภาษี VAT พาเศรษฐกิจพ้นหายนะ 

อดีต รมว.คลัง แนะรัฐบาลใหม่ขึ้นภาษี VAT เพิ่มรายได้ประเทศแสนล้าน พาเศรษฐกิจพ้นหายนะ

ครม.สืบสันดาน ถูกต้องเหมาะสมแล้ว

“นายเทพไท เสนพงศ์” บอก ครม.สืบสันดาน ถูกต้องเหมาะสมแล้ว

รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง จะรอดข้ามปีมั้ย???

“นายเทพไท เสนพงศ์” ตั้งข้อสังเกต รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง จะรอดข้ามปีมั้ย???

ทีทีบี ออกมาตรการสินเชื่อช่วยเหลือลูกค้าน้ำท่วม

ทีทีบี ออกมาตรการ “ตั้งหลัก” ช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ปรับโครงสร้างหนี้ และขยายเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 6 เดือน

Notice: ob_end_flush(): Failed to send buffer of zlib output compression (0) in /home/ozapeumy/public_html/wp-includes/functions.php on line 5427