บอร์ด คปภ. สั่ง “เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต” ห้ามเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน

Date:

ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการ ตามที่นายทะเบียนกำหนดเพิ่มเติม ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 13/2568 

ตามที่นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 จึงออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 เรื่อง ให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนดตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 โดยได้กำหนดให้บริษัทดำเนินการและห้ามดำเนินการ รวมถึงจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว และดำเนินการอื่นใดเพื่อให้บริษัทได้รับเงิน แบ่งออกเป็นห้างวด เพื่อแก้ไขปัญหาฐานะการเงิน และการดำเนินการ

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 บริษัทได้มีหนังสือขอขยายระยะเวลาการเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วและดำเนินการอื่นใดเพื่อให้บริษัทได้รับเงินตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 และนายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของ คปภ. ได้มีคำสั่งนายทะเบียนที่ 44/2567 เรื่อง ขยายระยะเวลาให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนดตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ลงวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และคำสั่งนายทะเบียนที่ 7/2568 เรื่อง ขยายระยะเวลาให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ลงวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2568 เฉพาะในส่วนการเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วและดำเนินการอื่นใดเพื่อให้บริษัทได้รับเงินไม่น้อยกว่าจำนวน 95 ล้านบาท ตามข้อ 1 (1) และไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท ตามข้อ 1 (2) ตามลำดับโดยขยายระยะเวลาให้บริษัทดำเนินการแล้วเสร็จจากเดิมภายในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 เป็นภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568  ซึ่งบริษัทดำเนินการเรียบร้อยแล้ว 

อย่างไรก็ตาม นายทะเบียนได้พบกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเพิ่มเติม ดังนี้

(1) บริษัทมิได้ยื่นงบการเงิน รายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการ และรายงานการดำรงเงินกองทุนสำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และงวดไตรมาส 1 ปี 2568 ที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้วภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 27/5 และมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับข้อ 9 (1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการจัดทำและยื่นงบการเงินของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2566 ความในข้อ 7 (1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการจัดทำ และยื่นรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2566 และความในข้อ 6/1 (1) และ 6/3 (1) แห่งประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการดำรงเงินกองทุนของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2564 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเป็นเหตุให้ไม่สามารถประเมินได้ว่าบริษัทนั้นมีฐานะการเงินและการดำเนินงานที่มั่นคง เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุนและสินทรัพย์สภาพคล่อง การจัดสรรเงินสำรอง การจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัยการรายงานและการรับรองการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย การประเมินราคาทรัพย์สินและหนี้สิน

(2) บริษัทมีการให้กู้ยืมโดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นประกันให้กับกิจการซึ่งมีกรรมการที่เกี่ยวข้องกันกับบริษัท โดยมิได้           ขออนุญาตจากนายทะเบียน อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ประกอบข้อ 20     แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง การลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2556   และเป็นเหตุให้เงินที่ให้กู้ยืมดังกล่าว ซึ่งเดิมนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของจะถูกคำนวณเป็นรายการหักในเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ ตามข้อ 9 (1) (ข) 5) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย       เรื่อง กำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้เงินกองทุนของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นเหตุให้ปรากฏข้อเท็จจริงจากการประมาณการฐานะการเงินงวดเดือนพฤษภาคม 2568 บริษัทจะมีระดับเงินกองทุนต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีแนวโน้ม Tier 1 ratio ที่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดตั้งแต่เดือนเมษายน 2568  

(3) บริษัทมิได้จัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัยตามมาตรา 27/4 ให้ครบถ้วน                  ตามที่กฎหมายกำหนด

ต่อมาบริษัทได้มีหนังสือที่ KWILC103/2025 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ถึงนายทะเบียน เพื่อรายงานความคืบหน้าการแก้ไขฐานะและการดำเนินการ ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 สรุปได้ว่า บริษัทจะได้รับเงินจำนวน 40 ล้านบาท ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เพื่อแก้ไขฐานะการเงินและการดำเนินการของคำสั่งนายทะเบียนข้างต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมีพฤติกรรมขอถอนเงินสดออกจากบริษัทเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยไม่ระบุรายละเอียดชัดเจนว่าเพื่อใช้ดำเนินธุรกิจในส่วนใด ทั้งที่บริษัทมีฐานะการเงินและการดำเนินการยังไม่ดีขึ้น 

จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏดังกล่าวข้างต้น แสดงให้เห็นว่า การกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและพฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นของบริษัทเป็นเหตุให้ไม่สามารถประเมินได้ว่าบริษัทนั้นมีฐานะและการดำเนินการที่มั่นคง เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุนและสินทรัพย์สภาพคล่อง การจัดสรรเงินสำรอง การจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพัน  ตามสัญญาประกันภัย การรายงานและการรับรองการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย การประเมินราคาทรัพย์สินและหนี้สิน ดังนั้น จึงถือได้ว่าบริษัทมีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ตามข้อ 5 (3) (4) และ (14) แห่งประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดกรณีที่ถือว่าบริษัทประกันชีวิตมีฐานะหรือ การดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย พ.ศ. 2567 

เพื่อให้การกำกับดูแลและติดตามการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการของบริษัทเป็นไปอย่างรอบด้าน ครอบคลุม ทั้งการติดตามความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชน ประกอบกับเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ประโยชน์สาธารณะ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ.2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 ประกอบมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ในการประชุมครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย จึงมีคำสั่งให้บริษัทดำเนินการเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว หรือดำเนินการใดเพื่อให้ได้รับเงิน ไม่น้อยกว่าจำนวน 40 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทดำรงเงินกองทุนเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 

ข้อ 2 จัดสรรเงินสำรองตามมาตรา 23 และจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัยตามมาตรา 27/4 ให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้

ข้อ 3  ยื่นงบการเงินและรายงานทางการเงินดังต่อไปนี้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้

(1)งบการเงินสำหรับรอบปีปฏิทิน พ.ศ. 2567 ที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข หรือแบบมีเงื่อนไข ในลักษณะที่ไม่เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย               แก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน

(2)รายงานการดำรงเงินกองทุนประจำปี 2567 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี

(3)งบการเงินรายไตรมาส 1 ปี 2568 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว

(4)รายงานการดำรงเงินกองทุนรายไตรมาส 1 ปี 2568 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว

(5)รายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการ รอบเดือนมกราคม เดือนกุมภาพันธ์ และรายไตรมาส 1 ปี 2568               ให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงและเชื่อถือได้ 

    ข้อ 4 ปรับปรุงการบันทึกรายการบัญชีให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง เชื่อถือได้ และเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี                 ที่รับรองโดยทั่วไป 

    ข้อ 5 ให้เรียกคืนเงินให้กู้ยืมจากการทำสัญญาให้กู้ยืมโดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นประกันให้กับกิจการซึ่งมีกรรมการ                   ที่เกี่ยวข้องกันกับบริษัทโดยมิได้ขออนุญาตจากนายทะเบียน ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 หากผู้กู้ยืมไม่คืนเงินภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้บริษัทดำเนินการตามกฎหมายกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นประกันทันที

    ข้อ 6 ห้ามมิให้กรรมการ พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทสั่งจ่ายเงินของบริษัท หรือทำการเคลื่อนย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท เว้นแต่เป็นการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างแก่พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทตามปกติ สำหรับการจ่ายเงินอื่นให้เป็นไปตามที่นายทะเบียนกำหนด

    นอกจากการดำเนินการข้างต้น บริษัทยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง                 ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินงานตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 เรื่อง ให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนด ตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 หรือตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งที่กำหนดเพิ่มเติมไว้ในคำสั่งนี้ ได้อย่างครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น หรือปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทมีการดำเนินการที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพิ่มเติม หรือนายทะเบียนพิจารณาแล้วเห็นว่า หากรอให้ครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยดำเนินการตามมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 และหากบริษัทไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่ง 

    สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท สำนักงาน คปภ. จะตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ การออกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว จะไม่กระทบในส่วนของความคุ้มครองและการได้รับชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนของผู้ประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยที่มี      ต่อบริษัท โดยบริษัทยังมีหน้าที่ดูแลผู้เอาประกันภัย/ประชาชนเป็นไปตามข้อกำหนดแห่งสัญญาประกันภัยทุกประการ                 หากผู้เอาประกันภัย/ประชาชนมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ www.oic.or.th

    Share post:

    spot_img
    spot_img

    Related articles

    ก.ล.ต.ให้ “โทเคนดิจิทัล” ลดปล่อยคาร์บอน ซื้อขายได้

    ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ “โทเคนดิจิทัล” ที่สนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอน ซื้อขายผ่านศูนย์ นายหน้า และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลได้

    การเมืองไม่มีทางออก ลุงตู่ จะคัมแบ็ค

    การเมืองไม่มีทางออก ลุงตู่ จะคัมแบ็ค แนะพรรคประชาชนรีบตัดสินใจ มีมติว่าจะเลือกให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

    “คลินิกแก้หนี้ by SAM” ร่วมบรรยายความรู้ทางการเงิน “ปลดล็อก ปลดหนี้”

    “คลินิกแก้หนี้ by SAM” ร่วมบรรยายความรู้ทางการเงิน “ปลดล็อก ปลดหนี้ แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

    เมืองไทยประกันชีวิต มอบแว่นสายตาเพื่อผู้สูงอายุ

    เมืองไทยประกันชีวิต และมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบแว่นสายตาเพื่อผู้สูงอายุ สานต่อภารกิจดูแลคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยไทยอย่างยั่งยืน