
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เดินหน้าจัดทำร่างหลักการกำกับดูแล กลุ่มบริษัทประกันภัยในระดับ Full Consolidation เตรียมเสนอคณะกรรมการ คปภ. ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมจัดประชุม Focus Group ร่วมกับบริษัทประกันภัย – สศค. – ก.ล.ต. – ธปท. เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน คาดว่าจะออกหลักเกณฑ์ใช้บังคับได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2569 มุ่งหวังช่วยส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมประกันภัยไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยของประเทศไทยให้สอดคล้องกับหลักสากล โดยมุ่งเน้นการกำกับดูแลแบบรวมกลุ่ม (Group-Wide Supervision : GWS) ตามหลักการประกันภัย (Insurance Core Principles : ICPs) ข้อ 23 เพื่อให้สอดรับกับโครงสร้างธุรกิจปัจจุบันที่บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่มีการจัดตั้งหรือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจ และขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหลากหลายรูปแบบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นและเสริมศักยภาพการแข่งขัน
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสและเสถียรภาพของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย สำนักงาน คปภ. ได้ศึกษาแนวทางจาก หน่วยงานกำกับดูแลภาคประกันภัยและภาคการเงินทั้งในและต่างประเทศ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ GWS ที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย โดยแบ่งการกำกับดูแลออกเป็น 2 ระดับคือ
1. ระดับ Solo Consolidation : ซึ่งประกอบด้วยบริษัทประกันภัยและบริษัทลูกที่บริษัทประกันภัยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบ หรือตั้งแต่ร้อยละ 20 ขึ้นไปและมีอำนาจควบคุม โดยจะมีการกำกับดูแลในหลักการเดียวกับการกำกับดูแลบริษัทประกันภัย
2. ระดับ Full Consolidation : ซึ่งประกอบด้วย บริษัทแม่สูงสุดของบริษัท และนิติบุคคลที่บริษัทแม่สูงสุดมีอำนาจควบคุมหรือ ถือหุ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมตั้งแต่ร้อยละ 20 ขึ้นไป หรือบริษัทร่วม หรือบริษัทลูกทุกทอด โดยหากบริษัทแม่สูงสุดเป็นนิติบุคคลต่างประเทศ หรืออยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงาน คปภ. จะกำกับดูแลผ่านรูปแบบหรือเครื่องมือ เช่น Supervisory College เพื่อไม่ให้เกิดการกำกับดูแลที่ซ้ำซ้อนกัน
โดยในช่วงปี 2567 – 2568 สำนักงาน คปภ. ได้ออกหลักเกณฑ์ GWS ในระดับ Solo Consolidation และขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างหลักการในระดับ Full Consolidation เพื่อเสนอคณะกรรมการ คปภ. ภายในไตรมาส 4 ปี 2568 โดยได้มีการจัดประชุม Focus Group ร่วมกับบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สศค. ก.ล.ต. และ ธปท. เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน เพื่อให้หลักการมีความครบถ้วนและชัดเจน สามารถนำไปบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. คาดว่าจะสามารถออกหลักเกณฑ์การกำกับดูแลกลุ่มบริษัทประกันภัยในระดับ Full Consolidation ได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2569 เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจประกันภัยไทย รวมทั้งสอดคล้องกับแนวทางการกำกับดูแล GWS ในระดับสากล
สำหรับหลักการ GWS จะครอบคลุมมิติสำคัญทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งประกอบด้วย 1. ฐานะการเงินในระดับกลุ่ม 2. โครงสร้างการถือหุ้นและคุณสมบัติกรรมการในระดับกลุ่ม 3. การจ่ายเงินปันผลของบริษัทประกันภัย 4. การกำหนดเพดานการลงทุนภายในกลุ่ม 5. การทำประกันภัยต่อภายในกลุ่ม 6. ธุรกรรมระหว่างกันภายในกลุ่ม (Intra-Group Transactions) 7. เงินกองทุนของกลุ่มธุรกิจประกันภัย (Group Capital) และ 8. การบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน และธรรมาภิบาลในระดับกลุ่ม
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ยังได้กำหนดคำนิยามเพิ่มเติม ได้แก่ “หัวหน้ากลุ่มธุรกิจประกันภัย” (Head of Insurance Group) ซึ่งหมายถึง นิติบุคคลที่เป็นบริษัทแม่หรือบริษัทแม่สูงสุด และ/หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลการดำเนินงานของ กลุ่มธุรกิจประกันภัย พร้อมกันนี้ สำนักงานยังได้พิจารณาขยายประเภทการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันภัย โดยไม่จำกัดประเภทอุตสาหกรรมที่บริษัทประกันภัยมีอำนาจควบคุมกิจการ ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้ธรรมาภิบาลที่ดี และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข GWS ที่เกี่ยวข้อง