ดือนสิงหาคมของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่ “ผู้หญิง” ได้รับความสนใจจากผู้คนมากเป็นพิเศษ เพราะด้วยมีวันสำคัญบนปฏิทินที่เกี่ยวเนื่องกับ “ผู้หญิง” ไม่ว่าจะเป็น วันสตรีไทย วันแม่แห่งชาติ วันแห่งความเท่าเทียมของผู้หญิง ที่ต่างสะท้อนถึงบทบาทของผู้หญิงอันเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยในหลากหลายด้าน
เฉกเช่นเดียวกับ “ป้าเตี้ย” ฐานิดา กนกหงส์ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ วัย 59 ปี ที่เป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการเติมเต็มความสุขให้แก่ผู้ที่เข้ามาใช้บริการห้องน้ำภายในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น สาขาวิภาวดี มายาวนานกว่า 10 ปี ร่วมสะท้อนมุมมองการทำงานในบทบาทพนักงานดูแลห้องน้ำ หนึ่งในฟันเฟืองเล็กๆ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการดูแลให้ห้องน้ำสะอาดอยู่เสมอ ซึ่งมักเป็นที่ชื่นชมของผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการใน พีทีที สเตชั่น ตลอดมา รวมทั้งให้แง่ดี ๆ จากประสบการณ์ตรงของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิตที่กำลังใจเกินร้อย
“ป้าตั้งใจทำงานความสะอาดห้องน้ำอย่างเต็มที่ และพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ จะได้ใช้ห้องน้ำที่สะอาดสะอ้าน น่าใช้ และเป็นความภูมิใจของตัวเองที่ได้เหมือนทำงานบริการสังคม จริงๆ การล้างห้องน้ำ ก็เป็นเหมือนการเติมความสุขชนิดหนึ่ง คนเข้ามาปลดทุกข์ พอออกไปแล้วก็สุขใจ สบายตัว ป้าเองก็สุขใจแถมยังได้เงินเดือนใช้อีก ก็เป็นความภาคภูมิใจของตัวเองเหมือนกัน”
ป้าเตี้ย พื้นเพเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เรียนจบแค่ ป.4 สั่งสมหัวใจรักงานบริการในอาชีพแม่บ้านนับแต่บัดนั้น กระทั่งได้รับโอกาสเข้ามาเป็นพนักงานดูแลห้องน้ำที่สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น สาขาวิภาวดี
แม้เป็นเพียงแม่บ้านทำความสะอาดห้องน้ำ ที่ต้องพบเจอแต่ความไม่ชวนมองในแต่ละวัน แต่ป้าเตี้ยก็ภูมิใจในตำแหน่งพนักงานทำความสะอาด ที่ดูแลความสะอาดห้องน้ำภายในสถานีได้อย่างสะอาดเอี่ยม จนได้รับคำชื่นชมจากลูกค้าที่มาใช้บริการ ที่บางคนก็หยิบยื่นน้ำใจเป็นรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่บ่อยครั้ง
“บางทีก็มีคนมาใช้บริการที่เขาน่ารัก เห็นเราทำความสะอาดห้องน้ำดี ก็ให้ทิปเป็นกำลังใจบ้าง บางคนก็บอกว่าให้ค่าน้ำนะคะคุณป้า ป้าก็ขอบคุณที่เขาเห็นความสำคัญของเรา เหมือนเขาเป็นแสงไฟเล็ก ๆ ที่ส่องมาเห็นความดีของเราที่ทำงานตรงนี้ แล้วก็ให้รางวัลเป็นกำลังใจกัน
“บางครั้งก็มีของที่คนมาใช้บริการลืมไว้ ทั้งกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ แว่นตา ขวดนมเด็ก ฯลฯ ถ้าป้าเจอก็จะรีบแจ้งออฟฟิศเพื่อให้เก็บไว้รอเจ้าของมารับกลับไป บางคนวิ่งกระหืดกระหอบกลับมา พอได้ของคืนเขาก็ดีใจ ตำแหน่งของป้าเป็นเพียงแค่เม็ดทราย แต่ได้ทำความดีช่วยเหลือสังคมเท่าที่ทำได้ ก็เป็นความภูมิใจของเราแล้ว” ป้าเตี้ยเล่าด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ
ในบทบาทความเป็น “แม่” ป้าเตี้ยเล่าว่า ตนเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาหลายปี ตั้งแต่ลูกสาวอยู่อนุบาล 1 ที่ผ่านมาก็ทำงานหนักเอาเบาสู้ ไม่เคยท้อ ที่ผ่านมาป้าก็ได้เงินเดือนจากการเป็นแม่บ้านที่ พีทีที สเตชั่น ส่งเสียลูกจนเรียนจบ ม.6 กระทั่งปัจจุบันนี้ลูกสาวก็ออกเรือนไปมีครอบครัวของตัวเองแล้ว
“ป้าไม่ได้มีความรู้มากมาย แต่ก็ได้รับโอกาสดี ๆ จากการทำงานที่ พีทีที สเตชั่น ทำให้สามารถยืนหยัดอยู่บนสังคมได้อย่างภาคภูมิใจ ถ้าไม่มีงาน ไม่มีหลักแหล่ง ชีวิตเราก็เหมือนเหรียญสลึงที่ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าเรามีงานทำ ไม่ว่าทำงานอะไร เราก็จะมีค่าเป็นเหรียญบาท เหรียญสิบขึ้นมาได้ ป้ามีคติประจำใจของตัวเองคือ ไม่นอนตื่นสาย ไม่อายทำกิน ไม่หมิ่นตำแหน่งน้อย ไม่ต้องคอยวาสนา เพราะทุกอย่างจะได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของเราเอง อย่าไปหวังได้จากคนอื่น และต้องไม่เบียดเบียนหรือเอาเปรียบใคร
“แล้วก็สอนลูกเสมอว่า ต้องขยัน อดทนทำงานไม่ว่าจะเป็นงานอะไร อย่างแม่เป็นแม่บ้านก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุด และภูมิใจในตัวเอง เพราะงานทุกอย่างมีเกียรติทั้งนั้น อย่าไปดูถูกตัวเอง สอนให้ลูกไม่เลือกงาน ให้ขยันทำงาน อย่างป้าเอง ก็เป็นแบบอย่างให้ลูกเรื่องการรับผิดชอบหน้าที่ ไม่หนีหน้างาน ถ้ามีปัญหาส่วนตัวก็ม้วนเก็บไว้ที่บ้าน แต่เวลามาทำงานเราต้องเต็มร้อย ยิ้มสู้กับงาน ทำให้เต็มที่ บางวันก็มีเรื่องให้เสียใจก็พยายามกลั้นน้ำตา และยิ้มให้ลูกค้าไว้เสมอ เพื่อไม่ให้กระทบงานของเรา”
นอกจากนี้ ป้าเตี้ย ยังให้กำลังใจผู้หญิงมากมายที่อยู่ในสถานะคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเช่นเดียวกับตน ว่า “ถ้าเราคิดว่าเราด้อยกว่าคนอื่น ให้หันไปดูคนอื่นที่ด้อยกว่าเรา บางครั้งการที่เราคิดว่าเราเดินอยู่บนถนนนั้นคนเดียว แต่จริงๆ แล้วบางทีชีวิตเราอาจจะดีกว่าเพื่อน ๆ คนอื่นที่เดินอยู่ใกล้ ๆ ก็ได้ ทุกคนมีปัญหาส่วนตัวกันทั้งนั้นแหละค่ะ”
หวังว่าแนวคิดดี ๆ จากตัวแทนผู้หญิงสู้ชีวิต อย่าง “ป้าเตี้ย” หญิงแกร่ง น้ำใจงามแห่งสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น สาขาวิภาวดี จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้แก่ผู้หญิงอีกมากมายได้ภูมิใจในคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในทุกบทบาทของตัวเอง เช่นเดียวกับพันธกิจของ พีทีที สเตชั่น ที่ให้ความสำคัญในทุกบทบาทของพนักงานตลอดจนพันธมิตรทุกภาคส่วน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่เติมต็มความสุขให้แก่ทุกคนที่มาเยือนเสมอมา