ดีลอยท์ ประเทศไทย ผู้ให้บริการวิชาชีพชั้นนําระดับโลกร่วมกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) พร้อมด้วยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัท ไลฟ์ ฟินคอร์ป จำกัด (LiVE) เดินหน้าจัดโครงการ “Acceleration Program – Road to LiVE 2025 รุ่นที่ 3” ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมืออย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่และธุรกิจที่มีศักยภาพสูงให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเปิดโอกาสในการเข้าถึงการระดมทุนผ่านตลาดทุนไทยได้อย่างมั่นใจ โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2568
โดยโครงการ Acceleration Program – Road to LiVE 2025 นี้ จะเน้นที่การพัฒนาและเตรียมความพร้อมในทุกมิติให้กับธุรกิจ อาทิ ด้านการวางแผนธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน ซึ่งรวมถึงประเด็นด้านการเงินและภาษี และการจัดการองค์กรให้เข้าสู่ธุรกิจมหาชน เพื่อยกระดับผู้ประกอบการให้พร้อมเข้าสู่เวทีตลาดทุน “LiVE Exchange” รวมถึงการวางรากฐานสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือ mai ในอนาคต ซึ่งเนื้อหาในโครงการได้ถูกออกแบบให้สอดรับกับบริบทของธุรกิจไทยในปัจจุบัน และถ่ายทอดผ่านกิจกรรมเชิงลึก 4 รูปแบบ ได้แก่ การอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ (Coaching) การสร้างเครือข่ายต่อยอดธุรกิจ (Networking) และการจำลองการนำเสนอต่อนักลงทุนตัวจริง (Pitching)
นายชวาลา เทียนประเสริฐกิจ Audit Leader ดีลอยท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ดีลอยท์ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการนี้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันในฐานะที่ปรึกษาหลัก เราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุนได้อย่างเป็นระบบ และสอดคล้องกับมาตรฐานที่ตลาดทุนกำหนด”
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ นอกจากจะได้รับคำปรึกษาเฉพาะทางจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ทั้ง ด้านภาษี การเงิน การควบคุมภายในรวมถึงการปรับธุรกิจจากลักษณะครอบครัวสู่การเป็นธุรกิจมหาชน ผู้เข้าร่วมยังจะได้รับการประเมินผลจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการและเกณฑ์ที่กำหนดตามแนวทางของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาตลาดทุน โดยผู้จัดโครงการฯ และดีลอยท์ ประเทศไทย เพื่อพิจารณารับทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ในสัดส่วนร้อยละ 75 ของค่าใช้จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยผู้เข้าอบรมจะ ต้องเข้าร่วมกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) อย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของการอบรม พร้อมกับจัดทำรายงานความคืบหน้าของการเตรียมความพร้อมและการปรับปรุงแก้ไข ให้สอดคล้องกับแนวทางที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำอย่างชัดเจน
โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับประเทศ อาทิ นักลงทุนมืออาชีพ ที่ปรึกษา ตลาดทุน และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ที่จะมาร่วมแบ่งปันองค์ความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก และเพิ่มความรู้ความเข้าใจ ให้ผู้ประกอบการสามารถก้าวสู่ตลาดทุนได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
