ธนาคารไทยเครดิต ได้รับการจัดอันดับเครดิต ‘A(tha)/F1(tha)’

Date:

ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Ratings) ที่ระดับ ‘A(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ระดับ ‘F1(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต ‘มีเสถียรภาพ’ จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำศักยภาพการบริหารธุรกิจที่แข็งแกร่ง ดำเนินกิจการบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง สะท้อนผลการดำเนินการที่ปรับตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การจัดอันดับครั้งนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) สะท้อนถึงรูปแบบธุรกิจเฉพาะทางของธนาคารไทยเครดิต ในการมุ่งเน้นให้สินเชื่อในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SMEs) รวมถึงมีอัตรากำไรที่อยู่ในระดับสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในระดับที่ค่อนข้างดี อีกทั้งมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่สูงกว่าอุตสาหกรรมธนาคาร และมีกำไรที่แข็งแกร่งจากประโยชน์ของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่สูง โดยฟิทช์คาดว่าความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร จะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในระยะสั้น

โดยผลประกอบการภาพรวม ของธนาคารไทยเครดิตเติบโตแบบ ‘Double Digit’ จากการบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อและคุณภาพสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในครึ่งปีแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,828.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และผลกำไรสุทธิไตรมาส อยู่ที่ 925.2 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 12.8 แสดงถึงศักยภาพในการสร้างผลดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ

นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ ‘A(tha)/F1(tha)’ จากฟิทช์ เรทติ้งส์ ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งและความมั่นคงทางการเงินของธนาคารไทยเครดิต รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นสร้างสมดุลระหว่างการขยายพอร์ตสินเชื่อและการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ระดับที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว”

นอกจากมิติทางการเงินมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแล้ว ธนาคารไทยเครดิตยังคงเดินหน้าสร้างความแตกต่างผ่านกลยุทธ์ Responsible Banking ที่เชื่อมโยงการเติบโตทางธุรกิจกับการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้จุดแข็งในการเข้าถึงผู้ประกอบการรายย่อยและพ่อค้าแม่ค้าทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินดิจิทัล เพื่อเสริมศักยภาพลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างวินัยทางการเงินของผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตอย่างมั่นคง ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ เพื่อวางรากฐานการเติบโตระยะยาวที่สมดุลในด้านการลงทุนผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ตลอดจนการสร้างคุณค่าทางสังคมต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกมิติ ตามปรัชญาธนาคาร “Everyone Matters – ทุกคนคือคนสำคัญ”

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กสิกรไทย ซื้อหุ้นคืน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน

กสิกรไทย ประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน

ผู้บริหารกรมสรรพสามิต ร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน

ผู้บริหารกรมสรรพสามิต ร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกระทรวงการคลัง ประจำปี พ.ศ. 2568

นายกฯ สั่งดึงร้าน OTOP เข้าโครงการ คนละครึ่งพลัส 

นายกฯ สั่งจังหวัดเร่งประชาสัมพันธ์ ดึงร้าน OTOP เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งพลัส

รัฐบาล ชวนประชาชนเที่ยว ได้ลดหย่อนภาษี กระตุ้นศก.

รัฐบาล เชิญชวนประชาชนร่วมโครงการ “เที่ยวดีมีคืน 2568” รับสิทธิลดหย่อนภาษี ตั้งแต่วันนี้ - 15 ธ.ค 68