“สคร. จับมือ depa ลงนามบันทึกข้อตกลงพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านรัฐวิสาหกิจ หลักทรัพย์ของรัฐ และ PPP”

Date:

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่อง การพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลด้านรัฐวิสาหกิจ หลักทรัพย์ของรัฐ และการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บันทึกข้อตกลงฯ) รูปแบบออนไลน์ เมื่อวันที่
30 กันยายน 2565 บันทึกข้อตกลงฯ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อร่วมกันสร้าง สคร. ให้เป็นองค์กรภาครัฐที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างเป็นระบบและยั่งยืน และมีการร่วมมือกันใน 3 ด้านคือ การบริหารจัดการข้อมูล (Data Management) การ จัดทำแบบจำลองในการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Model) รวมถึงการพัฒนาบุคลากร
ให้มีทักษะด้านข้อมูล (Data Skills) ในภารกิจด้านรัฐวิสาหกิจ หลักทรัพย์ของรัฐ และการส่งเสริมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ และด้านการพัฒนาองค์กรของ สคร.

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กล่าวว่า “การบูรณาการความร่วมมือของภาครัฐระหว่าง สคร. และ depa-GBDi นี้ เป็นกลยุทธ์ที่ผลักดันวิสัยทัศน์ ของ สคร. นั่นคือ “พัฒนารัฐวิสาหกิจ หลักทรัพย์ของรัฐ และการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ด้วยมาตรฐานสากล เพื่อสังคมก้าวหน้าและเศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน” และค่านิยมคือ Vibes (Visionary Leadership, Innovative, Best People, Emphasis on Success) ซึ่ง สคร. ตั้งเป้าจะเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Organization) โดยการนำข้อมูลมาใช้ในการตัดสินใจในทุกภารกิจ

ในปีงบประมาณ 2565 สคร. และ depa-GBDi ร่วมกันทดสอบนำร่องการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) กับข้อมูลหลักทรัพย์ของรัฐ พร้อมๆ กับการพัฒนาทักษะด้านข้อมูล (Data Skills) แล้ว ซึ่งเห็นผลลัพธ์ในด้านการบูรณาการข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์หลักทรัพย์ของรัฐ การนำข้อมูลมาแสดงผลเพื่อให้ผู้บริหารตัดสินใจ และการพัฒนาทักษะข้อมูลให้กับบุคลากรได้อย่างชัดเจน

ในปีงบประมาณ 2566 สคร. และ depa-GBDi มีการวางแผนเตรียมการด้านการบูรณาการและวิเคราะห์ข้อมูลด้านรัฐวิสาหกิจ และตั้งเป้าหมายการพัฒนาทักษะด้านการนำข้อมูลมาแสดงผลของบุคลากรให้ได้มากกว่า 50-60% ของบุคลากรทั้งหมด และจะต่อยอดให้ครบ 100% ในปีถัดๆ ไป โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้เกิดการพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านรัฐวิสาหกิจ หลักทรัพย์ของรัฐ และการส่งเสริมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ อย่างยั่งยืนโดยแท้จริง ขอขอบคุณ depa ที่มาร่วมการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐนี้”

ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เปิดเผยว่า ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลด้านรัฐวิสาหกิจ หลักทรัพย์ของรัฐ และการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership: PPP) ระหว่าง depa
โดย GBDi และ สคร. จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการบริหารจัดการข้อมูลด้านรัฐวิสาหกิจ หลักทรัพย์ของรัฐ และการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนอย่างเป็นระบบ โดยทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันจัดทำแบบจำลองการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Model) ด้านต่าง ๆ และพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะด้านข้อมูล ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐที่ต้องการผลักดันให้เกิดฐานข้อมูลภาครัฐที่สามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ตลอดจนวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรด้านการวิเคราะห์ข้อมูล และทักษะดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง

“depa เล็งเห็นความสำคัญของการใช้ประโยชน์จาก ‘ข้อมูล’ ที่ผ่านการส่งเสริมและยกระดับประสิทธิภาพโดยการบูรณาการการทำงานของเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการเดินหน้าขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล และการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่ออำนวยความสะดวก
แก่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนครอบคลุมทุกมิติของประเทศในยุคดิจิทัล ซึ่ง depa เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นต้นแบบการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ที่จะส่งเสริมภารกิจของกันและกันได้เป็นอย่างดี” ผู้อำนวยการใหญ่ depa กล่าว

นอกจากนี้ depa อยู่ระหว่างดำเนินการยกระดับ GBDi สู่การเป็น สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่แห่งชาติ (NBDi) ที่จะเป็นหน่วยงานหลักด้าน Big Data ของประเทศ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่ของไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาและประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาในราชกิจจานุเบกษาต่อไป การบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐสองหน่วยงานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมภารกิจของ สคร. ด้านรัฐวิสาหกิจ หลักทรัพย์ของรัฐ การส่งเสริมให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ และภารกิจของ depa ด้านการส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ แล้วยังเป็นต้นแบบของการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานอื่นๆ เพื่อส่งเสริมภารกิจของกันและกันได้เป็นอย่างดี

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกตัว 0.25% 

ออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกตัว 0.25% ทั้ง MRR MLR และ MOR มีผล 15 สิงหาคม 68 หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ

TQM กำไรครึ่งปี 68 สุทธิ 414 ล้านบาท

TQM ครึ่งปีแรก 2568 รายได้รวม 2,077 ล้านบาท กำไรสุทธิ 414 ล้านบาท จ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.50 บาทต่อหุ้น

กรุงไทย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้  0.25% 

กรุงไทย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้  0.25% ช่วยประคองลูกค้าทุกกลุ่มฝ่าวิกฤต และปรับตัวรับระเบียบการค้าใหม่ของโลก และความท้าทายที่ซับซ้อนระยะข้างหน้า

ธนาคารกรุงเทพ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

ธนาคารกรุงเทพ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ