
ที่ประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ครั้งที่ 1/2566 ติดตามความก้าวหน้าในการเตรียมรับมือสถานการณ์ “เอลนีโญ” ที่จะเกิดตั้งแต่ มิ.ย.2566 – ก.พ.2567 จะส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น หลายจังหวัดอาจประสบภัยแล้ง โดยปีนี้คาดว่าปริมาณฝนจะน้อยกว่าค่าปกติ 5% และอาจมีฝนทิ้งช่วงในเดือน มิ.ย. – ก.ค.66 จึงเน้นย้ำทุกหน่วยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและฝนทิ้งช่วงอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำที่ กอนช. คาดการณ์ไว้
การรับมืออย่างเป็นรูปธรรมและส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ยังเน้นย้ำการกักเก็บน้ำในทุกแหล่งน้ำให้ได้มากที่สุด บริหารจัดการน้ำต้นทุนที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หารือร่วมกับกรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำล่วงหน้า 2 ปี ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ผ่านเครือข่ายองค์กรผู้ใช้น้ำ คณะกรรมการลุ่มน้ำ รวมถึงบริหารจัดการน้ำภาคการเกษตรอย่างประณีต เตรียมแปลง ปรับรอบการส่งน้ำ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน พิจารณาตามหลักการ 1 รอบการเพาะปลูก หากมีรอบที่ 2-3 ต้องมีมาตรการลดการใช้น้ำเพื่อบริหารจัดการน้ำให้ถึงฤดูแล้งปี 2567/68 ทั้งนี้ การดำเนินงานตามมาตรการฤดูแล้งที่ผ่านมาในภาพรวมค่อนข้างเป็นไปตามแผนและเกิดผลกระทบไม่มากนัก
ขณะเดียวกัน ยังคงดำเนิน 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 รองรับสถานการณ์น้ำท่วมที่จะมีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยด้วย หน่วยงานที่ยังไม่ได้รับงบประมาณขอให้จัดทำแผนปฏิบัติการสำรองการบริหารจัดการน้ำหลาก ให้กรมชลประทาน ประชาสัมพันธ์แผนการส่งน้ำ จัดรอบเวรการส่งน้ำตามปริมาณน้ำที่ได้รับจัดสรร ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งติดตามการพิจารณาจ่ายเงินค่าทดแทน หรือ ชดเชยความเสียหายจากการใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นพื้นที่รับน้ำนองโดยเร็ว ควบคุมพื้นที่การเพาะปลูกให้เป็นไปตามแผน เช่น พื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่ลุ่มต่ำและต้องปลูกพืชเร็วกว่ากำหนดพิจารณาใช้น้ำฝนเป็นหลัก ส่งเสริมการทำนาแบบเปียกสลับแห้งเพื่อลดการใช้น้ำ และเตรียมแผนขุดเจาะบ่อบาดาลเพิ่มเติม แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฝนทิ้งช่วง