นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีค่าเงินบาทแข็งขึ้นกว่า 10% ว่า ค่าเงินบาทจาก 36 บาทกว่ามาอยู่ที่ 32 บาทกว่าต่อดอลลาร์ โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาต่ำที่สุดในรอบ 30 เดือน หรือ 2 ปี
อย่างไรก็ตามจึงอยากขอให้รัฐบาลเร่งติดตามเรื่องการใช้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งจะทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพลังงาน สินค้าเกษตร โลหะ อุตสาหกรรม ปศุสัตว์ ที่มีต้นทุนจากการนำเข้าที่ลดลง และจะส่งผลดีต่อสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันและปุ๋ย ดังนั้น การติดตามตรวจสอบต้นทุนราคาที่เป็นธรรมเหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจะต้องทันต่อเหตุการณ์ เป็นหน้าที่ของหลายหน่วยงานโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงาน
“ขอย้ำว่าปัญหา เศรษฐกิจปากท้องของประชาชนในขณะนี้ รัฐบาลจะต้องดูแลทั้งการเพิ่มรายรับและลดรายจ่ายค่าครองชีพลงด้วย ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลมีโครงการแจกเงินหนึ่งหมื่นให้กับกลุ่มเปราะบางถึงแม้จะไม่ตรงปกตามที่พรรคเพื่อไทยเคยพูดหาเสียงไว้แต่ก็เป็นไปตามที่พรรคประชาธิปัตย์โดยผมได้เคยเสนอแนะไว้ตั้งแต่ต้นปี ช่วงรัฐบาลนายกฯเศรษฐา ซึ่งเพิ่มรายได้เยียวยาเฉพาะกลุ่มที่เดือดร้อนจริง ๆ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ต้องการแต่ก็ถือแต่การกระตุ้นหัวใจที่กำลังหยุดเต้นของกลุ่มเปราะบางที่เดือดร้อน แต่สิ่งสำคัญรัฐบาลก็ต้องเน้นใน เรื่องลดรายจ่ายด้วยดูแลปากท้องค่าใช้จ่ายของประชาชนซึ้งทำไม่ยากถ้าเข้าใจปัญหาและทันต่อสถานการณ์ “ นายชนินทร์ กล่าว