คำพูด พ่อ-ลูก พอๆกัน แก้ปัญหาผ ฝุ่น PM2.5 เหลว

Date:

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า

คำพูด พ่อ-ลูก พอๆกัน

ท่ามกลางปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่นPM 2.5 ของประเทศไทย กำลังวิกฤตอย่างหนัก จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวทางการแก้ไข และการเอาจริงเอาจังของรัฐบาลดังมากยิ่งขึ้น จนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นละอองPM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน และเป็นภัยร้ายต่อสุขภาพของประชาชนว่า

“เราขอความช่วยเหลือทั้งหมดว่า ทุกคนร่วมมือกันให้ฝุ่นน้อยลง แน่นอนวันที่ฝุ่นมันเยอะ มันอยู่ในอากาศ เราไม่สามารถดีดนิ้วให้ฝุ่นหายไปได้ เราเตรียมเท่าที่ทำได้อย่างเต็มที่ เต็มกำลัง”

ผมฟังการให้ความเห็นของนางสาวแพทองธารแล้ว รู้สึกไม่สบายใจกับท่าทีการตอบคำถามในลักษณะเช่นนี้ เพราะเป็นการพูดใช้ภาษาในลักษณะแดกดัน  หรือประชดประชัน ซึ่งไม่เหมาะสมกับวุฒิภาวะของคนเป็นนายกรัฐมนตรี 

การพูดว่า “เราไม่สามารถดีดนิ้วให้ฝุ่นหายไปได้” เป็นคำตอบที่ไม่ควรออกจากปากคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งควรจะตอบถึงสภาพความเป็นจริงว่า ปัญหาที่เป็นอยู่ ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย และเป็นปัญหาใหญ่ ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในทันที ต้องขอความร่วมมือยกระดับการแก้ปัญหาให้เป็นวาระแห่งชาติ  ซึ่งฟังแล้วจะรื่นหูกว่าคำพูดประชดประชันแดกดัน แบบวัยรุ่นหรือเด็กฮาร์ด พวกสก๊อยซ์  หรือเด็กแว๊น

ส่วนการที่นักข่าวถามนายทักษิณ ชินวัตร ถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้าน ก็ออกมาพูดถึงนายกรัฐมนตรีว่า ไปสูดอากาศดีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะอากาศประเทศไทยกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต นายทักษิณได้แซะนายณัฐพงษ์ ว่า “อ่อ ภารกิจมีหลายอย่าง ผู้นำฝ่ายค้านมีภารกิจเดียวคือค้านในสภา ฉะนั้นภารกิจนายกฯเยอะกว่า ก็ต้องว่าไป” 

ก็เป็นคำพูดในลักษณะประชดประชันและแดกดันเช่นเดียวกัน เป็นที่รับรู้กันว่าคนที่มีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบการแก้ปัญหาประเทศชาติ มีบทบาทหน้าที่มากกว่าผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นฝ่ายตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล การมาแดกดันว่า นายกรัฐมนตรีมีภารกิจมากกว่าผู้นำฝ่ายค้าน ก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เพราะบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน ถ้าจะให้พิสูจน์ว่าใครมีฝีมือในการบริหารประเทศมากกว่ากัน ก็ต้องลองให้นายณัฐพงษ์ มาเป็นนายกรัฐมนตรีดูบ้าง

การพูดในลักษณะเช่นนี้ถือว่า เป็นการพูดที่ไม่สร้างสรรค์ และควรนำไปใช้ทั้งนายทักษิณและนางสาวแพทองธาร ซึ่งการพูดที่ขาดวุฒิภาวะ จะนำมาซึ่งความขัดแย้งและความแตกแยกในสังคมมากยิ่งขึ้น

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

เลขาธิการ คปภ. ลงพื้นที่ติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในพื้นที่สงขลา

เลขาธิการ คปภ. ลงพื้นที่ติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในพื้นที่สงขลา ประชุมร่วมกับบริษัทประกันภัย พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย

5 เคล็ด(ไม่)ลับ…จัดการ ‘ภาษี’ ไม่ให้เป็น ‘ภาระ’

5 เคล็ด(ไม่)ลับ…จัดการ ‘ภาษี’ ไม่ให้เป็น ‘ภาระ’ แต่เพิ่ม ‘เงินออม’ ในกระเป๋าคุณ

นายกฯ อนุทิน สั่ง “กองทัพ” ปกป้องอธิปไตย หลังปะทะกัมพูชารอบใหม่

นายกฯ อนุทิน สั่ง “กองทัพ” ปกป้องอธิปไตย หลังปะทะกัมพูชารอบใหม่ บินด่วนพร้อม รมว.กลาโหม ลงพื้น 8 ธ.ค. นี้

บจ. มีรายได้ชะลอลงทั้งในงวด 9 เดือนแรกปี 2568

บจ. มีรายได้ชะลอลงทั้งในงวด 9 เดือนแรกปี 2568 และไตรมาส 3 ตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว