นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5 – 8 กุมภาพันธ์ 2568 จะถือโอกาสพูดคุยกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเรื่องการค้ามนุษย์
ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีความมั่นคงของจีนมาคุยกับไทย เรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ประกอบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศบนเวทีหาเสียงนายก อบจ. ว่า ภายในปีนี้เรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จะหมดไป มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่นายทักษิณกล่าวไปก็เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ทั้งการปราบยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝุ่นควัน ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งการได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านจะช่วยเร่งกระบวนการนี้ให้สำเร็จเร็วขึ้น อย่างเรื่องฝุ่นในประเทศไทย หากดูจากจุดความร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังต้องขอความร่วมมือกันต่อไป เพราะฝุ่นอยู่ในอากาศ ลมสามารถพัดจากเราไปหาเขา และจากเขามาหาเราได้ ซึ่งก็ทำให้ส่งผลกระทบทั้งหมด จึงต้องอาศัยความร่วมมือ และหากได้ความร่วมมือก็จะเกิดผลเร็วอย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงความจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากจีนให้ช่วยเรื่องการปล่อยข่าวปลอมในโซเชียล นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้หารือเรื่องนี้โดยตรงแล้ว และการที่ตนเองเดินทางไปจีน ก็จะหารือขอความร่วมมือในเรื่องนี้อยู่แล้ว และจากการที่ตนเองได้ใช้ Ai เพื่อประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจเป็นภาษาจีนนั้น ทางการจีนก็บอกว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และชอบที่เราสื่อสารกับเขาเป็นภาษาจีน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องการตั้งทีมโซเชียล เพื่อชี้แจงในแต่ละประเด็น ว่า เรื่องนี้ทำอยู่แล้ว ในการตั้งทีมมอนิเตอร์ว่าข่าวเท็จที่เกี่ยวกับประเทศไทย เป็นกลไกของกระทรวงดีอีอยู่แล้วว่าจะต้องปกป้องประเทศเราอย่างไรไม่ให้ข่าวลือ ข่าวเท็จมีผลกระทบ
เมื่อถามย้ำว่า จะนำประเด็นนี้ไปพูดคุยกับทางการจีนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้วการพูดคุยกับนายสี จิ้นผิง จะเป็นการพูดคุยกันในภาพรวม ส่วนเนื้อหาและรายละเอียดต้องให้กระทรวงดีอีเป็นคนไปพูดคุยต่อไป ซึ่งในส่วนของตนเองก็จะแสดงความห่วงใยในเรื่องคอลเซ็นเตอร์ และพูดคุยในหัวข้อหลัก