
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
ทักษิณ โชว์เก๋า ข่มพรรคส้ม
ขอวิเคราะห์คำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้(14 มี.ค.) กรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมจะอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีชื่อนายทักษิณอยู่ในญัตติด้วย ซึ่งแยกเป็นประเด็นต่างๆได้ดังนี้
1.นายทักษิณถามว่า ใส่ชื่อตนในญัตติเพื่ออะไร ตนไม่ได้เป็นส.ส. ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จะทำไปเพื่ออะไร หรือจะดิสเครดิตเพื่อวางเผื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า เหลืออีก 2 ปี ขอให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบเลือกตั้ง ไม่ต้องหาเสียง แสดงให้เห็นว่านายทักษิณมองว่าคู่แข่งสำคัญของพรรคเพื่อไทยในปี 2570 คือพรรคประชาชน
2.นายทักษิณตำหนิพรรคประชาชนว่า เป็นพรรคคนรุ่นใหม่ ต้องพยายามทำอะไรให้สร้างสรรค์ ต้องทำอะไรที่ดูแล้วน่าเชื่อถือ อย่าเป็นที่น่ารำคาญ หากทำอะไรที่น่ารำคาญ เดี๋ยวจะเสียไปอีกพรรค ซึ่งไม่แน่ใจว่านายทักษิณหมายถึงพรรคใด แต่ถ้าเป็นพรรคที่เคยต่อสู้กับนายทักษิณมายาวนาน น่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่กล้าเอ่ยชื่อพรรค เพราะตอนนี้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่
3.เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่านายทักษิณเป็นนั่งร้าน คอยอยู่ด้านหลังนายกรัฐมนตรี แรงเกินไปหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า “ต้องถามว่าประเด็นนี้ได้ปรึกษาผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้วหรือไม่ เขาได้ปรึกษากันยังว่าจะเล่นประเด็นนี้ ซึ่งนายทักษิณพยามแสดงให้เห็นว่า ตนเองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำจิตวิญญาณของพรรคประชาชน เพื่อตอกย้ำความหวาดระแวงของสังคม เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำจิตวิญญาณของทั้ง2พรรค
4.เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านไม่ยอมถอนชื่อนายทักษิณออกจากญัตติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯ ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล แสดงให้เห็นว่าสามารถสั่งการกดดันการทำหน้าที่ของประธานสภาได้ จึงโยนการตัดสินใจที่ประธานสภาเพียงคนเดียว
5.เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้นายกรัฐมนตรีพานายทักษิณ เข้าไปนั่งชี้แจงในสภาด้วย นายทักษิณกล่าวว่า “กติกาได้หรือเปล่า ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน โถ่ เป็นคนรุ่นใหม่ ทำอะไรให้มีรักษากติกาบ้าง” ซึ่งประเด็นนี้นายทักษิณคงไม่เข้าใจว่า เป็นข้อเสนอแบบประชดประชันของพรรคประชาชน
6.นายทักษิณบอกว่า ช่วงนี้นายกรัฐมนตรีทำงานหนักหน่อย เพราะปัญหาเศรษฐกิจต้องช่วยกันฟื้น ซึ่งตอนสมัยปี 2540 ที่มีปัญหาเศรษฐกิจตอนนั้น เป็นเหมือนบ้านที่หลังคาพัง ซ่อมง่าย แต่วันนี้พังโดยฐานราก ต้องใช้เวลาในการซ่อม แต่ต้องใช้เวลาหน่อย ต้องให้เวลารัฐบาล ซึ่งนายทักษิณพยายามแก้ต่างให้รัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เคยหาเสียงไว้ว่าเป็นมือแก้เศรษฐกิจ จนถึงบัดนี้เป็นรัฐบาลมา2ชุดแล้ว ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ จึงพยายามโยนความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลคสช.