
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “ในขณะนี้อยู่ในช่วงการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและการขอคืนภาษี มิจฉาชีพอาศัยโอกาสนี้ในการหลอกลวงประชาชน ด้วยหลากหลายวิธี โดยมักแอบอ้างชื่อหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมสรรพากร เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และใช้ช่องทางต่างๆ ในการล่อลวง โดยพฤติกรรมที่พบได้บ่อยมี ดังนี้
1. มิจฉาชีพใช้เบอร์ 02-272-8000 ส่ง SMS เพื่อหลอกเอาเงินจากผู้เสียหาย
2. ใช้บัญชี LINE ปลอม โดยใช้รูปผู้บริหารกรมสรรพากรเป็นภาพประจำตัว เพื่อหลอกประชาชนให้หลงเชื่อ และกดลิงก์ที่มิจฉาชีพส่งมาให้
3. ส่ง Email ปลอม อ้างเป็นฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของกรมสรรพากรหลอกให้ผู้เสียหายกดลิงก์ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ e-Tax
4. ส่งข้อความผ่านทาง SMS หรือ Email โดยแอบอ้างเป็นกรมสรรพากร หลอกให้ผู้เสียหายกดลิงก์ เพื่อดำเนินการต่าง ๆ เช่น การส่งเอกสารเพิ่มเติม การยืนยันสิทธิ์ขอคืนภาษี หรือการให้ข้อมูลส่วนบุคคล
5. โทรศัพท์ติดต่อผู้เสียหายโดยตรง แจ้งได้รับสิทธิ์ในการขอคืนภาษี และหลอกให้ดำเนินการธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านตู้ ATM ตามขั้นตอนที่กำหนด
ซึ่งในอนาคต มิจฉาชีพอาจใช้เทคนิคการหลอกลวงรูปแบบใหม่ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ หรือใช้วิธีการต่างๆ ในการล่อลวงและขโมยข้อมูลสำคัญของประชาชน”
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมสรรพากรไม่มีนโยบายติดต่อหาประชาชน หรือผู้เสียภาษี เพื่อขอข้อมูลส่วนตัว หรือให้ดำเนินธุรกรรมทางภาษีผ่านช่องทาง และวิธีการดังกล่าว หากได้รับข้อความหรือการติดต่อในลักษณะนี้ ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลกับกรมสรรพากรโดยตรงที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161 หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศก่อนดำเนินการใด ๆ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ”