นายกฯ ติดตามวอร์รูมแก้ภาษีทรัมป์ ชี้ต้องวางกรอบรอบคอบ

Date:

คอลเซ็นเตอร์

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 เม.ย. ตรงกับเวลาในสหรัฐฯ 09.00 น. โดยประมาณ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประชุมร่วมกับคณะวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์ภาษีสหรัฐ ฯ เพื่อติดตามและนำมาเป็นข้อมูลเชิงเปรียบเทียบในแต่ละประเทศว่าจะดำเนินการอย่างไร  ที่จะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดทางการค้าระหว่างประเทศครั้งนี้

นายจิรายุ กล่าวว่า ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าความหวั่นวิตกเกิดขึ้นอย่างหนักในสหรัฐอเมริกาเอง ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันศุกร์ที่ 4 เม.ย. โดยมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสงครามการค้าโลก ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้น ฉุดตลาดหุ้นตกลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เกิดโควิด-19 ขณะที่ ดัชนี Nasdaq ได้เข้าสู่ภาวะตลาดหมี (bear market) ภาวะตลาดหุ้นตกต่ำอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ทำให้เห็นว่าประเทศไทยต้องตั้งมั่นในฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำคัญของประเทศในการเจรจาในทุกมิติกับสหรัฐ ฯ คณะทำงานของรัฐบาลไทยในการการเจรจากับสหรัฐฯ ต้องรอบคอบและกำหนดห้วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทยให้ดีที่สุด

นายจิรายุ กล่าวว่า โดยวอร์รูม มีความเห็นตรงกันว่า  “ช้าไปก็ไม่ดี เร็วไปก็เสี่ยง” จึงจำเป็นต้องรอบคอบ ซึ่งเห็นได้ว่าประเทศอื่นที่เริ่มการเจรจาไปก่อนการประกาศขึ้นภาษีของประธานาธิบดี ทรัมป์ ก็ไม่ได้ช่วยสถานการณ์ประเทศนั้นๆให้ดีขึ้นแต่อย่างใด กลับถูกตั้งกำแพงภาษีมากกว่าที่คาด ดังนั้น การเร่งรีบจึงไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ตรงกันข้ามกลับกลายเป็นการประกาศ “ให้ของฟรี” กับอเมริกาไปก่อนหน้าการประกาศขึ้นภาษี

นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า วอร์รูมเห็นว่าท่าทีของประเทศไทยหลังจากที่รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน ทำให้เห็นข้อมูลที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งถือเป็นเทคนิคการวางแผนในการเจรจาที่ประเทศไทยต้องได้รับประโยชน์สูงสุด  ซึ่งวันนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศชัดเจนแล้ว คณะกรรมการฯเห็นว่า เรามีห้วงเวลาที่เหมาะสมและข้อมูลจากการดำเนินการมาตลอด 3 เดือน มีความพร้อมแล้ว ที่จะเจรจาอย่างเป็นทางการ กรอบการเจรจาของรัฐบาลไทยมีหลากหลายมิติ ทั้งในเชิงของการลดภาษี ศุลกากร การเปิดตลาดใหม่ๆรวมทั้งแนวทางในการปรับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยเป็นพันธมิตรกับเกษตรกรของสหรัฐฯ ในการที่เราจะซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ มากขึ้นเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบ เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอาหารคุณภาพที่ส่งออกไปสู่ตลาดโลก

นายจิรายุ กล่าวว่า ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกได้ให้ข้อมูลไปพร้อมๆกับการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้มาตั้งแต่ต้นปี เพื่อเตรียมรับมือมาอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่าการติดตามและตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลที่สำคัญเพื่อเป็นข้อมูลที่ชัดเจนในการตัดสินใจแก้ไขปัญหานี้จะสามารถทำงานได้อย่างรอบคอบ  เนื่องจากนักวิเคราะห์หลายประเทศเขียนบทวิเคราะห์ตรงกันว่าบางประเทศตื่นตระหนกไปเจรจาก่อนการประกาศโดยยื่นข้อเสนอต่างๆไปโดยเปล่าประโยชน์

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์ระบุว่ารัฐบาลไทยประเมินสถานการณ์อย่างเป็นระบบมาอย่างต่อเนื่องโดยวันอังคารที่ 8 เมษายน เวลา 13:00 น. จะเป็นช่วงที่สรุปผล และกรอบของการเจรจา เพื่อทำให้ประเทศไทยและภาคธุรกิจส่งออกของไทย ได้ประโยชน์สูงสุดในการแก้ไขปัญหานี้ 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

GWM กวาดยอดจองกว่า 4,959 คัน ในงาน Motor Show 2025 

GWM กวาดยอดจองกว่า 4,959 คัน ในงาน Motor Show 2025 พร้อมประกาศปรับราคา NEW GWM TANK 300 DIESEL ทุกรุ่น ขึ้น 30,000 บาท

ฮอนด้า คว้า 2 รางวัล ในงานมอเตอร์โชว์ 2025

ฮอนด้า คว้า 2 รางวัล THE BEST AWARD ในงานมอเตอร์โชว์ 2025 ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลาย

CHANGAN กวาดยอดจอง 6,589 คัน

CHANGAN กวาดยอดจอง 6,589 คัน ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

โตโยต้า ยอดจองรถไฮบริดมาแรง 3,795 คัน

โตโยต้า ยอดจองสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในงานมอเตอร์โชว์ 2025 ถึง 9,615 คัน รถไฮบริดยังมาแรง 3,795 คัน คิดเป็น 39%