
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
ภาพลักษณ์ ครม. ชี้อนาคตรัฐบาลอนุทิน
หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไ ด้มีมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไปแล้ว ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่า พรรคประชาชนได้เซ็นเอ็มโอยูหรือเอ็มโอเอกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือจะอยู่บริหารประเทศและยุบสภาภายในกำหนด 4 เดือน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ใช้เวลาไม่มาก แต่มีหลายฝ่ายประเมิณและคาดการณ์ว่า รัฐบาลชุดนี้อาจจะอยู่ไม่ถึง 4 เดือนก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการบริหารงานและภาพลักษณ์ของรัฐบาลชุดนี้
ด้านแรกที่นายกอนุทิน จะต้องเจอคือ โฉมหน้าของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งนายอนุทินมีสิทธิ์จะเลือก ถ้าหากว่าโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดนี้ เป็นที่ถูกอกถูกใจ เป็นที่ไว้วางใจของพี่น้องประชาชน ก็จะเป็นก้าวแรกหรือเป็นบันไดขั้นแรก ที่ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลอนุทิน 1 แต่ถ้าหากภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ มีภาพลักษณ์ที่ประชาชนไม่ยอมรับ ประชาชนปฏิเสธ ก็จะเป็นด่านแรกที่รัฐบาลอนุทิน 1 ขาดศรัทธาจากประชาชนและจะลุกลามไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาลในวันข้างหน้าได้ด้วย
รัฐบาลอนุทิน1 ภายใต้การโหวตสนับสนุนของพรรคประชาชน และมีเงื่อนไขไม่ขอร่วมรัฐบาล ทำให้โควต้ารัฐมนตรีว่างอยู่ประมาณครึ่งหนึ่ง คือ 17 ตำแหน่ง ซึ่งใน 17 ตำแหน่งนี้ เป็นโอกาสของนายอนุทินจะคัดเลือกสรรหาบุคคลที่มีชื่อเสียง มีความรู้ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ยอมรับของประชาชน หรือที่เรียกกันว่า ”เทคโนแครต“ หรือมืออาชีพ
ถ้านายอนุทินกล้าแต่งตั้งคนเหล่านี้เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครึ่งหนึ่งของครม.ชุดนี้ จะทำให้หน้าตาของครม.ชุดนี้ เป็นที่ยอมรับของประชาชน แต่ถ้าหากว่านายอนุทินให้โควต้าบุคคลภายนอกเพียง 3-5 ตำแหน่ง ก็ถือว่าน้อยเกินไป อาจทำให้ภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรี ชุดอนุทิน1 ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน ถ้ายังใช้การจัดสรรโควต้าแบบการเมืองเก่าๆ ดึงจำนวนส.ส.เอามาแลกกับเก้าอี้รัฐมนตรี แบ่งกัน ให้หัวหน้ามุ้ง หัวหน้าก๊วนเป็นรัฐมนตรี ตั้งรัฐมนตรีต่างตอบแทน เชื่อว่าจะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลลดน้อยลง และประชาชนก็จะปฏิเสธในที่สุด
เพราะฉะนั้นเป็นโอกาสที่ดีมาก นายอนุทินควรจะใช้การจัดโควต้ารัฐมนตรีแบบครึ่งต่อครึ่ง เป็นมืออาชีพครึ่งหนึ่ง ใช้โควต้าที่พรรคประชาชนไม่รับตำแหน่ง อีกครึ่งหนึ่งเป็นโควต้าของนักการเมืองที่โหวตสนับสนุนนายอนุทิน กลับมาใช้สัดส่วน 8:1 เหมือนเดิม อย่าลดสัดส่วนเหลือ 4:1 ถ้าลดเหลือ 4:1 ก็จะทำให้ไม่มีโอกาสคัดคนดีเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้
ในฐานะที่เป็นเพื่อนกับนายอนุทินมาก่อนก็มีความหวังดี และอยากให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ครบ 4 เดือนตามเอ็มโอยูหรือเอ็มโอเอ แต่ถ้าหากเริ่มต้นจากภาพลักษณ์ของรัฐบาล หรือครม.ยี้ และมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น ก็จะเสี่ยงที่จะทำให้อายุของรัฐบาลชุดนี้ จบลงก่อนกำหนด 4 เดือน ก็เป็นไปได้ครับ