นายกฯ อนุทิน แถลงยุบสภาฯ เดือนม.ค.69

Date:

นายกฯ อนุทิน เดินหน้าโครงการคนละครึ่ง

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 24 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล  นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย  นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงภายหลังการประชุมครม.นัดพิเศษ ว่า วันนี้ตนและครม.ได้มีการประชุมนัดพิเศษเป็นครั้งแรกซึ่งเราได้มีการรับทราบถึงวาระสำคัญ ซึ่งตนจะขอสรุปดังนี้ 1. ที่ประชุมพิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งเรากำลังรอคำยืนยันจากทางประธานรัฐสภาอยู่คาดว่าคงเป็นต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างนโยบายของรัฐบาล โดยมีสาระสำคัญคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน ได้แก่ปัญหาเศรษฐกิจเรื่องการลดรายจ่าย ลดค่าของชีพให้กับพี่น้องประชาชน เราจะพลักดันโครงการคนละครึ่ง ลดค่าเดินทาง ค่าขนส่งและค่าพลังงาน เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีค่าของชีพและมีรายจ่ายที่ลดลง

นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในด้านการพลังงานจะสนับสนุนให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทนได้สะดวกและง่ายขึ้น ด้านปัญหาความมั่นคงกรณีพิพาทไทย-กัมพูชาเราจะใช้มาตรการทางการทหารและทางการทูตฯ ควบคู่กันไป เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศไทยและรักษาประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวไทย ด้านปัญหาภัยพิบัติ และภัยธรรมชาติ นอกจากจะต้องเร่งรัดทำระบบเตือนภัย และป้องกันภัยแล้ว เราจะต้องปรับปรุงระบบมาตรการการดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วให้ทันสถานการณ์ ซึ่งคงจะต้องแจ้งกฎระเบียบ หลักเกณฑ์ต่างๆเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้โดยสะดวกคล่องตัว และแก้ปัญหาให้พวกเขาได้เร็วที่สุด โดยไม่ผิดกฎหมายและไม่ผิดระเบียบ ป้องกันการรั่วไหลและการทุจริตคอรัปชัน และปัญหาภัยสังคมรัฐบาลจะดำเนินการปราบปรามและเข้มงวดและเด็ดขาดกับกระบวนการค้ายาเสพติด การพนันการพนันออนไลน์  สแกมเมอร์ เครือข่ายฉ้อโกงประชาชน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนเป็นภัยทางเศรษฐกิจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างร้ายแรง และจะต้องออกจากราชการไว้ก่อนรวมถึงตามด้วยการดำเนินคดีทางอาญาทุกกรณีเรื่องนี้รัฐบาลจะเอาจริง เพื่อแก้ปัญหาด้านภัยสังคมให้ผ่านพ้นไปให้ได้ ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนที่จะไม่สนับสนุนธุรกิจการพนันไม่มีเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์แบบมีกาสิโนและการพนันออนไลน์ที่ถูกกฎหมาย

นายกฯ อนุทิน แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร

นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะราคาข้าว ราคามันสำปะหลังและสินค้าเกษตรอีกหลายชนิด ซึ่งเรายังมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ยและป้องกันปราบปรามขบวนการลักลอบนำผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาประเทศไทย โดยไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรของเราไม่สามารถโงหัวขึ้นได้อันนี้เป็นปัญหาที่สำคัญมากและเราจะส่งเสริม ให้มีการพัฒนาศักยภาพการผลิตภาคเกษตรให้เป็นเกษตรอัจฉริยะ นอกจากนี้ เราจะจัดทำระบบการสาธารณสุขให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกวัยเข้าถึงได้อย่างทั่วถึงและสะดวกที่สุด และปฏิรูปกฎหมายต่างๆเกี่ยวกับการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทยในการที่จะรับมือกับเทคโนโลยีที่ผันเปลี่ยนไปตลอดเวลา เราจะเข้านำประเทศไทยเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก

นายกฯ อนุทิน ประกาศยุบสภาฯ เดือน ม.ค. 2569

“ด้านนิติบัญญัติรัฐบาลจะจัดให้มีการทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชาณาจักรไทย เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ในวันที่มีการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปครั้งหน้า ซึ่งจะเกิดขึ้นในปีหน้า พ.ศ.2569  ในฐานะนายกฯผมจะยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนนับตั้งแต่วันที่แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ผมจะยุบสภาภายในสิ้นเดือนม.ค. 2569 เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนเพื่อให้พวกเขาได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งภายในเดือนมี.ค. 2569 หรืออย่างช้าต้นเดือนเม.ย. 2569  สุดแล้วแต่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะเป็นผู้กำหนดต่อ” นายกฯกล่าว

นายกฯ อนุทิน ลั่นทำงาน 7 วันไม่มีวันหยุด

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันเดียวกันนี้ครม. เห็นชอบและให้ตนลงนามในหนังสือกราบเรียนประธานสภา เพื่อแผลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราได้ขอความกรุณาท่านไปว่าขอให้ดำเนินการในช่วงระหว่างวันที่ 28- 30 ก.ย.นี้ เราขอท่านให้ดำเนินการโดยรัฐบาลชุดอื่นๆใช้เวลาแถลงนโยบายมีการฟังคำอภิปรายจากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 2 วัน อย่างไรก็ตาม ครม.ได้กำหนดรูปแบบแนวทางการประชุมครม. และกรอบเวลาในการนำเสนอโครงการต่างๆพร้อมทั้งเอกสารประกอบการพิจารณาในที่ประชุมโดยได้แจ้งให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องปรับระยะเวลาการทำงานให้มีความรวดเร็ว กระชับลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและลดความซ้ำซ้อนให้ได้มากที่สุด จะต้องถูกต้องตามระเบียบของราชการและถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ เนื่องจากรัฐบาลมีข้อจำกัดด้านเวลาทุกหน่วย จึงต้องปรับตัวให้เป็นไปตามกรอบเวลาการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อให้เกิดการประสิทธิภาพสูงสุดและแก้ปัญหาให้ประชาชนได้เร็วและมากที่สุด ดังนั้นครม.ของตนทุกท่านทุกคนต้องพร้อมทำงานตลอดเวลาวันหยุดไม่มี สัปดาห์ละ 7 วัน ทำได้โดยที่ไม่มีความละล้าละลังใดๆ ซึ่งจะเป็นการทำงานในมิติใหม่ของครม.ของประเทศไทย ครม.ของพี่น้องประชาชนและการประชุมครม.ก็จะดำเนินขึ้นตามความจำเป็นไม่จำเป็นต้องประชุมสัปดาห์ละ 1 ครั้งจากข้อจำกัดด้านเวลา ถ้าเรามีความจำเป็นต้องเร่งผลักดันนโยบายต่างๆเพื่อนำไปสู่ประชาชนแล้วอาจจะมีการประชุมครม. มากกว่าสัปดาห์ละ 1 วันในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพราะปัญหาของประเทศเรารอไม่ได้  

นายกฯ อนุทิน ปลื้มปิติรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาที่คุณ

“การประชุมครม. นัดพิเศษในวันนี้พวกเราทุกคน ได้รับพรอันประเสริฐจากฟากฟ้าและมีความปลื้มปิติรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาที่คุณที่ได้รับพระราชทานกำลังพระทัยจากองค์พระประมุข พวกเราทุกคนพร้อมและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งเต็มใจทุ่มเทที่จะรับราชการบริหารราชการแผ่นดินสนองพระเดชพระคุณ สนองพระมหากรุณาที่คุณและตอบสนองประชาชนชาวไทยทุกคนนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป” นายกฯ กล่าว

นายกฯ อนุทิน แบ่งงาน 6 รองนายกฯ รัฐมนตรี

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย

นายพิพัฒน์​ รัชกิจประกาศ​ รองนายกรัฐมนตรีแล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่ง เป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง (สร2.)ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ หรือ​ อีอีซี

นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​  เป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่สอง (สร.3) กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือสคบ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ หรือ​ ส​ทนช. กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานสำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี สถาบันนโยบายที่ดินแห่งชาติ​   สำนักงานบริหารจัดการที่ดิน​ (องค์การมหาชน)​ สำนักงานคณะกรรมสุขภาพแห่งชาติ​ คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ

นายบวรศักดิ์​ อุวรรณโณ  รองนายกรัฐมนตรี​ ด้านกฎหมาย​ เป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่สาม(สร.4.) กำกับดูแล​ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมกฤษฎีกา​ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา​ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ​ คณะกรรมคดีพิเศษ​ คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบยาเสพติด​ 

ขณะที่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่4(สร.5) กำกับดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ(ยกเว้นที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของนายกฯ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ) ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่5 (สร6.) มอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงศึกษาธิการ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และรมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่6 (สร7) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอุตสาหกรรม

ส่วนของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายภราดร ปริศนานันทกุล กำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงบประมาณ (ยกเว้นที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของนายกฯ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ) รวมทั้งกำกับดูแลสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ

ด้าน นางสาวศุภมาส อิศรภักดี กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ และบริษัท อสมท. (จำกัดมหาชน) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ กำกับดูแล สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สำนักพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม นายสันติ  ปิยะทัต สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปองดอง สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)

ส่วนของ ร.อ.ธรรมนัส คณะกรรมการจะกำกับดูแลคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย คณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนา การกีฬาแห่งชาติ คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

นายกฯ อนุทิน ตั้ง นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

การประชุมคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เสนอแต่งตั้ง นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้น

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

โอกาส ผู้ประกอบการไทย ในลาว

โอกาส ผู้ประกอบการไทย ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของลาว

บสย. ร่วมบรรยายหลักสูตร “ผู้ประกอบการรุ่นใหม่หัวใจพอเพียง รุ่นที่ 9”

บสย. ร่วมบรรยายหลักสูตร “ผู้ประกอบการรุ่นใหม่หัวใจพอเพียง รุ่นที่ 9” สร้างโอกาสทางการเงินและการเติบโตอย่างยั่งยืน

ธ.ก.ส. เปิดตัวโครงการผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ภาคการเกษตร

ธ.ก.ส. เปิดตัวโครงการผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ภาคการเกษตร ขับเคลื่อนการบริหารจัดการชุมชนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

นายกฯ อนุทิน น้ำตาคลอ ปลื้มปิติพระบรมราโชวาทในหลวง

นายกฯ อนุทิน น้ำตาคลอ ปลื้มปิติพระบรมราโชวาทในหลวง ถือเป็นมงคลสูงสุด ลั่นสละทั้งชีวิตเพื่อราชบัลลังก์