
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2568 โดยมีรายงานว่าก่อนเริ่มการประชุมนายกฯได้กล่าวว่า ขอทุกคนให้ทีมงานนำโทรศัพท์ไปเก็บ โดยได้มีการใส่ซองไปฝากไว้กับเจ้าหน้าที่หน้าห้องทั้งหมด และมีรายงานว่าในการประชุมดังกล่าวอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะรัฐมนตรีและคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเท่านั้น ไม่อนุญาตให้คนติดตามและเจ้าหน้าที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าในห้องประชุม
นายกฯ แถลงหลังการประชุมว่า ทุกหน่วยงานได้รับทราบว่าขณะนี้ปัญหาสแกมเมอร์เป็นปัญหาอาชญากรรมระดับโลก รัฐบาลจะต้องถือว่าเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยตนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 ต.ค. เพื่อให้ทุกกระทรวงทุกหน่วยงานได้บูรณาการความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหานี้ และเราได้รับทราบว่าแต่ละหน่วยงานก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ และมีบันทึกออกมาว่าได้จับกุมได้ยึดทรัพย์ยึดเงิน ดำเนินคดีผู้ที่กระทำความผิดจำนวนมาก มูลค่าระดับหมื่นล้านบาท เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ เพราะต่างคนต่างทำงาน ตรงนี้อยากให้ความมั่นใจกับประชาชนว่ารัฐบาลไม่ได้อยู่นิ่งเฉย และมีการสั่งการให้ดำเนินการให้เข้มข้นเพิ่มมากขึ้น
โดยเจ้าภาพหลักที่จะแก้ไขเรื่องนี้ จะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงมหาดไทย ก็จะได้จัดตั้งเป็นคณะอนุกรรมการ โดยแต่ละชุดไปดำเนินการมาและนำมาผนึกกำลังกัน
นายกฯ กล่าวว่า เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ยืนยันว่าตอนนี้ถ้าจะต้องทำการตัดหรือปิดสัญญาระบบการสนับสนุนพลังงานด้านใด ไม่ต้องขึ้นไปขอแล้ว มีมติครอบคลุมเอาไว้แล้ว โดยหน่วยงานเจ้าสังกัดสามารถดำเนินการหยุดการให้บริการ หรือให้การสนับสนุน หรือหยุดซัพพลายของสิ่งที่จะไปทำให้คนทำผิดกฏหมายได้ทันที อันนี้ถือว่าเป็นยาแรง และที่ประชุมเมื่อสักครู่ได้ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปแล้วไม่ต้องรอแล้ว
เมื่อถามว่า นอกจากตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตแล้วจะมีการตัดสัญญาณไฟฟ้า หรืออะไรด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็ใช่ ถ้าไปทำให้เป็นการสนับสนุนให้เขากระทำความผิด เราก็ตัดได้เลย และไม่ต้องรอว่าเมื่อไหร่จะประชุมสมช. เมื่อถามต่อว่ามีกี่พื้นที่ในการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต นายกฯกล่าวว่า ตอนนี้หลักๆ ฝั่งขวาก่อน
นายกฯ กล่าวว่า มีคนกระทำความผิดถือสัญชาติไทย แต่ก็ยังถือสัญชาติอื่นอยู่ด้วย ซึ่งได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครองไปดำเนินการคนถือ 2 สัญชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มาขอสัญชาติไทยแล้วยังถือสัญชาติอื่นอยู่ มันไม่ต้องไปดูพฤติกรรมอื่น ตรงนี้ถือว่าผิดอยู่แล้ว ฉะนั้นเราจะดำเนินการถอนสัญชาติเขา อันนี้แรงหรือยัง เมื่อถามอีกว่าบุคคลดังกล่าวเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เชื่อมโยง และเครือข่ายด้วย