นายกฯ  ชู 3 แนวทาง ยกระดับความร่วมมืออาเซียน–เกาหลี 

Date:

วันที่ 27 ตุลาคม เวลา 09.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชม.) ณ ห้องประชุมใหญ่ 2 ชั้น 3 ศูนย์การประชุม KLCC กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 26 (26th ASEAN – Republic of Korea Summit) โดย นายอี แช มย็อง (H.E. Mr. Lee Jae Myung) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลีคนใหม่ได้จะได้พบกับผู้นำอาเซียน เป็นครั้งแรก ขณะที่ไทยทำหน้าที่เป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลี 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงทั้งในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียนในคราวเดียวกัน พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ในนามอาเซียน ว่า ยืนยันความมุ่งมั่นของอาเซียนในการขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านอาเซียน–สาธารณรัฐเกาหลี ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมชื่นชมบทบาทของเกาหลีใต้ในกลไกความร่วมมือของอาเซียน และจะดำเนินการตามแผนการดำเนินงานอาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลีฉบับใหม่ (พ.ศ. 2569-2573)  

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงด้านความมั่นคง แสดงความมุ่งมั่นต่อความร่วมมือทางการเมือง เพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ เช่น อาชญากรรมทางไซเบอร์ ตลอดจนสนับสนุนการเสริมสร้างความตระหนักรู้ด้านกิจการทางทะเลผ่านความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น และขอเสนอความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับเกาหลีในการปราบปรามสแกมเมอร์ อย่างจริงจัง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้นำสมาชิกอาเซียนหลายชาติ ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และลาว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านเศรษฐกิจ มีการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ผ่านการยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–เกาหลี (ASEAN-Korea Trade Agreement – AKFTA) ในปี 2026 และการใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน

ส่วนด้านดิจิทัลและนวัตกรรม จะเร่งผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมความร่วมมือด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการพัฒนาทักษะดิจิทัล โดยชื่นชม “โครงการ Korea–ASEAN Digital Innovation Flagship” ของรัฐบาลเกาหลี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านสังคมและวัฒนธรรม ได้ผลักดันการส่งเสริมการศึกษา การท่องเที่ยว กีฬา การพัฒนาแรงงาน และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ระหว่างอาเซียนและเกาหลีใต้เพื่อเตรียมความพร้อมสู่อนาคต และด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เน้นการส่งเสริมการทำงานร่วมกับศูนย์อาเซียนในสาขาอนามัย สิ่งแวดล้อม และพลังงานหมุนเวียน

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย โดยเสนอ 3 แนวทางความร่วมมือหลัก เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทย–อาเซียน–สาธารณรัฐเกาหลี ได้แก่ 1.การพัฒนาเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัล สนับสนุนข้อริเริ่ม “AI Initiative” ของเกาหลีใต้ เพื่อการเติบโตอย่างครอบคลุม 2.การส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ผ่านการเร่งรัดเจรจา “Thailand–ROK Economic Partnership Agreement (EPA)” และการปรับปรุงข้อตกลง AKFTA เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาค และ 3.การสร้างอนาคตสีเขียวและยั่งยืน โดยไทยพร้อมร่วมมือกับเกาหลีในการดำเนินโครงการ “Clean Air for Sustainable ASEAN” และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม

นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำจุดยืนของไทยในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค โดยสนับสนุนการแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยการเจรจาและความร่วมมือ ไม่ใช่การเผชิญหน้า และแสดงความพร้อมของไทยและอาเซียนที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ของสาธารณรัฐเกาหลีในการดำเนินการตามแผนการดำเนินงานอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ฉบับใหม่ (พ.ศ. 2569-2573) เพื่อขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ แจงเซ็น MOU แรร์เอิร์ธ อยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย

นายกฯ แจงเซ็น MOU แรร์เอิร์ธ อยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย เชื่อสามารถพัฒนาเทคโนโลยีไทยได้

เจาะลึกเส้นทางของ “ทองคำ” โลหะล้ำค่าใต้ผืนดิน

เจาะลึกเส้นทางของ “ทองคำ” โลหะล้ำค่าใต้ผืนดิน แร่สำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก

ธอส.เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี

ธอส.เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน 

MASTEC เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก

อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ ร่วมเปิดหุ้น MASTEC เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก