
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเชิญชวนประชาชนที่ร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ใช้จ่ายตามวงเงินสิทธิ์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยมีระยะเวลาการใช้วงเงินสิทธิ์จนถึง 31 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะต้องใช้สิทธิโครงการฯ โดยซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการฯ ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ได้รับสิทธิรวม 20 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้ที่ยื่นภาษี ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ 2,400 บาท จำนวน 7.93 ล้านคน และผู้ที่ไม่ยื่นภาษี ได้รับสิทธิ 2,000 บาท จำนวน 12.07 ล้านคน โดยครั้งนี้มีผู้ลงทะเบียนรวม 20.19 ล้านคน มีผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติ 194,210 คน เนื่องจากเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เสียชีวิต รวมถึงเคยทำผิดเงื่อนไขโครงการก่อนหน้า และเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนร้านค้า เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 620,000 ร้าน กระทรวงการคลังยืนยันว่าจะไม่มีการส่งข้อมูลยอดขายให้กรมสรรพากรแต่อย่างใด ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการยังสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 19 ธ.ค. 2568
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยมองเห็นสัญญาณบวกนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาล เชื่อว่าจะเป็นจังหวะสำคัญที่ภาคค้าปลีกสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า โครงการ ‘คนละครึ่ง พลัส’ จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในภาคค้าปลีกได้กว่า 60,000 – 70,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญต่อบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
“คนละครึ่ง พลัส รัฐช่วยจ่าย 50% ผู้ได้รับสิทธิ์จ่ายเองอีก 50% โดยสิทธิจะถูกสะสม หากใช้ไม่หมดในแต่ละวัน ครั้งนี้นอกจากร้านค้าแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ทั้งบก น้ำ ราง เช่น BTS MRT เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน เพิ่มรายได้ให้คนทำงานขนส่งทั่วประเทศ และพร้อมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้” นายสิริพงศ์ กล่าว




